ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Core Retail Sales m/m และ Retail Sales m/m ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Unemployment Claims และ Philly Fed Manufacturing Index ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับ 109.07 จุด และทําจุดสูงสุดที่ระดับ 109.38 จุด ก่อนจะปิดที่ระดับ 108.96 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 108.90 จุด ทําให้ภาพรวมราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 20 เหรียญ โดยเช้านี้มา อยู่ที่ระดับ 2,715 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 34.53 บาทต่อ ดอลลาร์ โดยเช้านี้มาอยู่ที่ระดับ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ สําหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญ ของสหรัฐฯ ได้แก่ Building Permits คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ Housing Starts และ Industrial Production m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม และยังคงต้องติดตามประเด็นสงคราม ระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดอิสราเอลได้เลื่อ นการลงมติของคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งมีกําหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสกําลังพยายามเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในนาทีสุดท้าย
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคําในระยะสั้นเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้น หลังจากราคาทองคําสามารถขึ้นไปยืนเหนือ ระดับ 2,700 เหรียญได้ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,700 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,730 เหรียญ สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนว รับ 2,720 เหรียญ และแนวต้าน 2,750 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,725 เหรียญ และแนวต้าน 2,755 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 43,900 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 44,500 บาท/บาททองคํา
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th