Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามการขาดทุนของวอลล์สตรีท หลังสัญญาณเชิง hawkish จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรายงานการจ้างงาน ได้กระตุ้นให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ความกังวลต่อความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ขณะที่อิหร่านขู่ว่าจะใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิสราเอล ทำให้ความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยงนั้นลดลงไปมาก ทางด้านปริมาณการซื้อขายในตลาดภูมิภาคก็ลดลงเช่นกันเนื่องจากวันหยุดเทศกาลของจีน
หุ้นเอเชียได้รับผลกระทบจากความอ่อนแอของวอลล์สตรีท เนื่องจากดัชนีหลักร่วงลงมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี หลังจากที่เฟดเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อที่ sticky จะทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าออกไป ข้อมูล การจ้างงานนอกภาคการเกษตร คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งในแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็ยังทำให้ตลาดมีความลังเล
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัวในตลาดเอเชีย
Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลงจากการอ่อนค่าของเงินเยน
Nikkei 225 ของญี่ปุ่นมีผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดในตลาดเอเชียวันนี้ โดยร่วงลงถึง 2.5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์
Nikkei ได้รับผลกระทบจากการเทขายทำกำไรอย่างต่อเนื่องหลังพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในเดือนมีนาคม ดัชนียังคงต้องดิ้นรนเพื่อปรับตัวขึ้นในเดือนเมษายนอีกด้วยเพราะความไม่แน่นอนในเส้นทางเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่ sticky อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
หุ้นด้านการส่งออกถือเป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดใน Nikkei เนื่องจากเงิน เยน rebound จากการขาดทุนสู่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ ความกังวลต่อการแทรกแซงตลาดสกุลเงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของเงินเยน
หุ้นญี่ปุ่นโดยรวมก็ร่วงลงเช่นกัน โดย TOPIX ปรับลดลง 1.7%
หุ้นเอเชียอื่น ๆ ก็ปรับตัวลดลง หลังหุ้นเทคโนโลยีได้รับผลกระทบจากการขาดทุนในตลาดสหรัฐฯ
KOSPI ของเกาหลีใต้ร่วงลงมากกว่า 1% โดย Samsung Electronics (KS:005930) ซึ่งเป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในดัชนี ลดลง 1.5% แม้จะมีการคาดการณ์ว่าหุ้นจะ bounce อย่างโดดเด่นในไตรมาสแรกก็ตาม
ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 1.1% เนื่องจากการซื้อขายแบบ catch-up หลังวันหยุดเมื่อวันพฤหัสบดี
ASX 200 ของออสเตรเลียร่วงลง 0.9% หลังได้รับผลกระทบจากการขาดทุนในหุ้นธนาคารและเหมืองแร่รายใหญ่ ข้อมูลในวันนี้แสดงให้เห็นว่า ดุลการค้า ของออสเตรเลียลดลงเกินคาดในเดือนกุมภาพันธ์ เห็นได้ชัดจากการส่งออกแร่เหล็กไปยังจีนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
Nifty 50 และ Sensex ของอินเดียทำสถิติสูงสุดก่อนรายงานของ RBI
ดัชนีอินเดียฟิวเจอร์ส และ Nifty 50 มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบทรงตัว หลังจากที่ดัชนีและ Sensex ปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อวันพฤหัสบดี
กำไรส่วนใหญ่ได้รับการกระตุ้นจากการซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ท่ามกลางจุดยืนก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2024 อีกทั้งความเชื่อมั่นยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นขนาดเล็ก
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญยังอยู่ที่รายงานสรุปการประชุมของ ธนาคารกลางอินเดีย ในวันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางถูกคาดหวังว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายไว้ที่ 6.5% แต่แนวโน้มเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด