InfoQuest - ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดฉากการซื้อขายเดือนธ.ค., ไตรมาส 4 และปี 2566 ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ต่างปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ล่าสุด นายโรเบิร์ต แคปแลน อดีตประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเฟดต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
นายแคปแลนกล่าวว่า เฟดต้องการหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป ทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงต่อไป
"เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราเผชิญปัญหาเงินเฟ้อคือการที่เฟดใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินนานเกินไป แม้ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังดีดตัวขึ้น และผมคิดว่าเฟดไม่อยากทำผิดพลาดเหมือนกันเกี่ยวกับการใช้นโยบายเข้มงวดทางการเงินนานเกินไป ขณะที่เศรษฐกิจและเงินเฟ้อเริ่มอ่อนตัวลง" นายแคปแลนกล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสถานีข่าว CNBC
ทั้งนี้ การปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ในเดือนธ.ค., ไตรมาส 4 และตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นดังนี้:-
-ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนธ.ค., 12.1% ในไตรมาส 4 และ 13.3% ตั้งแต่ต้นปี 2566
-ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนธ.ค., 11.4% ในไตรมาส 4 และ 24.4% ตั้งแต่ต้นปี 2566
-ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 6% ในเดือนธ.ค., 14% ในไตรมาส 4 และ 44% ตั้งแต่ต้นปี 2566
นอกจากนี้ การทะยานขึ้น 44% ของดัชนี Nasdaq ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถือเป็นการทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2546