InfoQuest - ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (7 ธ.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเมื่อวันพุธ (6 ธ.ค.) ขณะที่ นักลงทุนประเมินข้อมูลการค้าจากจีนและออสเตรเลีย
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,222.19 จุด ลดลง 241.07 จุด หรือ -1.46%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,899.94 จุด ร่วงลง 545.96 จุด หรือ -1.63% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,960.34 จุด ลดลง 8.60 จุด หรือ -0.29%
ตัวเลขการค้าเดือนพ.ย.ของจีนสวนทางการคาดการณ์ โดยยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 0.5% และยอดนำเข้าลดลง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกจะลดลง 1.1% และยอดนำเข้าจะปรับตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ยอดเกินดุลการค้าของจีนขยับกว้างขึ้นสู่ 6.839 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า ออสเตรเลียเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกแร่เหล็กและแร่ธาตุต่าง ๆ ขณะที่การนำเข้าลดลง
ทั้งนี้ ABS ระบุว่า ยอดเกินดุลค้าของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 7.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยยอดส่งออกเดือนต.ค.ดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนต.ค.ลดลง 1.9%
ราคาน้ำมันแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) ของสหรัฐสัญญาส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.94 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.07% ปิดที่ 69.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.90 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.76% ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (6 ธ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง แม้ปัจจัยดังกล่าวอาจจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้าก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,054.43 จุด ลดลง 70.13 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,549.34 จุด ลดลง 17.84 จุด หรือ -0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,146.71 จุด ลดลง 83.20 จุด หรือ -0.58%