🔥 ฟีเจอร์การคัดเลือกหุ้นระดับพรีเมียมโดย AI จาก InvestingPro ตอนนี้ลดสูงสุดถึง 50% รับส่วนลด

ดาวโจนส์ดีดตัว ขานรับจ้างงานภาคเอกชนต่ำคาด

เผยแพร่ 07/12/2566 05:14
© Reuters.  ดาวโจนส์ดีดตัว ขานรับจ้างงานภาคเอกชนต่ำคาด
DJI
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากร่วงลง 2 วันติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีหน้า

นอกจากนี้ ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยที่ลดลงมากกว่าคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,206.32 จุด บวก 81.76 จุด หรือ 0.23%

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 128,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากที่ ADP เปิดเผยว่า ตัวเลขค่าจ้างเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2564

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.2% ในไตรมาส 3/2566 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2563

นอกจากนี้ ตัวเลขประสิทธิภาพในการผลิตดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.5% ในไตรมาส 2

ทั้งนี้ ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานเป็นการวัดผลผลิตรายชั่วโมงต่อแรงงาน 1 คน

ขณะเดียวกัน ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยลดลง 1.2% ในไตรมาส 3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในไตรมาส 2

นักลงทุนจับตาตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%

นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมี.ค.2567

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.7% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.2566 และให้น้ำหนัก 87.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค.2567

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.2567

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย