InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (10 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น หลังจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้นได้ทำลายความหวังของนักลงทุนที่ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจแตะระดับสูงสุดแล้ว นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 443.31 จุด ลดลง 4.49 จุด หรือ -1.00%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,045.04 จุด ลดลง 68.62 จุด หรือ -0.96%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,234.39 จุด ลดลง 118.15 จุด หรือ -0.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,360.55 จุด ลดลง 95.12 จุด หรือ -1.28%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่เข้าทดสอบเมื่อวันพฤหัสบดี และปิดตลาดสัปดาห์นี้ลดลงเล็กน้อย
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลงหนักที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อและกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับแรงซื้อจากนักลงทุน
เจ้าหน้าที่เฟดซึ่งรวมถึงนายพาวเวลแสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับภารกิจในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกหากจำเป็น
ด้านนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนอาจปรับตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แต่อัตราดอกเบี้ยซึ่งทรงตัวอยู่ที่ระดับปัจจุบันอย่างน้อยเป็นเวลาหลายไตรมาสอาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2%
ความเห็นจากบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มร่วงลงเกือบ 3.1% หลังหุ้นดิอาจีโอซึ่งผลิตวิสกี้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์คาดว่า การขยายตัวของกำไรจากการดำเนินงานจะลดลงในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงินปัจจุบัน
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง 2.6% โดยหุ้นริชมอนด์ ร่วง 5.2% หลังรายงานผลประกอบการต่ำกว่าคาด ซึ่งฉุดหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันปรับตัวลงด้วย อาทิ หุ้นแอลวีเอ็มเอช, เคอริง และแอร์เมส โดยร่วงลงราว 1.6-3.8%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยผลผลิตอุตสาหกรรมของอิตาลีทรงตัวในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสะท้อนภาวะอ่อนแอโดยรวมของอิตาลีซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน
นอกจากนี้ ผลสำรวจที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของนอร์เวย์เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค.นั้น จะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางนอร์เวย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนหน้า