รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 65.57 จุด รับรายงานประชุมเฟด-บอนด์ยีลด์ชะลอตัว

เผยแพร่ 12/10/2566 13:20
อัพเดท 12/10/2566 12:40
© Reuters.  ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 65.57 จุด รับรายงานประชุมเฟด-บอนด์ยีลด์ชะลอตัว

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,804.87 จุด เพิ่มขึ้น 65.57 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,376.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.71 จุด หรือ +0.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,659.68 จุด เพิ่มขึ้น 96.83 จุด หรือ +0.71%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยหนุนตลาดปิดในแดนบวก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 4.581% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนมองว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในการประชุมครั้งใดครั้งหนึ่งในปีนี้ แต่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และภาวะในตลาดการเงินแล้ว เฟดควรจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยควรจะอิงตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับมา มากกว่าที่จะกำหนดแนวทางอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า

แองเจโล คอร์คาฟาส นักวิเคราะห์จากบริษัท Edward Jones กล่าวว่า รายงานการประชุมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเฟดเล็งเห็นถึงความเสี่ยงของการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป และช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก อย่างไรก็ดี เฟดจะนำตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้มาพิจารณาด้วย เนื่องจากเฟดยังคงยึดแนวทางการอิงข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 2% และ 1.6% ตามลำดับ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลง

แต่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.4% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงเกือบ 3% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานยังถูกฉุดจากราคาหุ้นเอ็กซอน โมบิล ที่ดิ่งลง 3.6% หลังจากบริษัทตกลงซื้อกิจการบริษัทไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส (Pioneer Natural Resources) ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง มูลค่า 5.95 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นไพโอเนียร์พุ่งขึ้น 1.4%

หุ้นอิไล ลิลลี (Eli Lilly) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.5% หลังจากมีรายงานว่า โนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของเดนมาร์ก ประสบความสำเร็จในการทดลองยาโอเซมปิก (Ozempic) สำหรับรักษาภาวะไตวายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% จากระดับ 2.0% ในเดือนส.ค. และดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.5% ในเดือนส.ค.

ส่วนในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สำหรับวันพรุ่งนี้จะเป็นการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย