ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรง หลังราคาน้ำมันก่อความกังวล

© Reuters.

Investing.com -- หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในวันพุธ เร่ิมต้นช้าในเดือนกันยายน เนื่องจากนักลงทุนตั้งตารอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในปลายเดือนนี้

ณ เวลา 09:35 ET (13:35 GMT) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 104 จุดหรือ 0.3% ในขณะที่ S&P 500 ลดลง 0.4% และ แนสแด็ก Composite ลดลง 0.4%

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลบเกือบ 200 จุดหรือ 0.6% ลดลงเมื่อวันอังคาร ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Compositeลดลง 0.1% และดัชนี S&P 500 ลดลง 0.4%

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลต่อความเชื่อมั่น

การคำนึงถึงความเชื่อมั่นทั่วโลกในสัปดาห์นี้ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผู้ผลิตรายใหญ่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียขยายเวลาการลดอุปทานไปจนถึงสิ้นปีโดยไม่คาดคิด

แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะอ่อนตัวลงเมื่อวันพุธ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI ทรงตัวที่ 86.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ น้ำมันเบรนท์ หดตัว 0.1% เหลือ 89.94 ดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในปีนี้โดยมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ และธนาคารกลางสหรัฐจะขับเคลื่อนอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างไร

เฟด ถูกมองว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายน โดย คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่าข้อมูลเศรษฐกิจรอบล่าสุดให้ข้อมูล ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประเมินว่าจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหรือไม่

Beige Book ของเฟดแสดงฉากทัศนะทางเศรษฐกิจ

มีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะครบกำหนดในวันพุธ รวมถึงผลสำรวจ Beige Book ของเฟดเกี่ยวกับธนาคารเขต 12 แห่ง ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วประเทศ

ISM non-manufacturing Purchas' Index คาดว่าจะอยู่ที่ 52.5 ในเดือนสิงหาคม ลดลงจาก 52.7 ในเดือนก่อนหน้า ตัวเลขนี้ทำหน้าที่เป็นมาตรวัดกิจกรรมในอุตสาหกรรมบริการ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญที่มีสัดส่วนมากกว่าสองในสามของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจะได้รับโอกาสในการรับฟังวิทยากรจากเฟดหลายคนในช่วงสัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดยประธานเฟดของดัลลัส ลอรี่ โลแกน มีกำหนดพูดในวันพุธนี้

ข่าวเศรษฐกิจจากยุโรปและจีนน่าผิดหวังในสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องในวันพุธ โดยยอดค้าปลีกในยูโรโซนลดลง และคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนีทรุดลงในเดือนกรกฎาคม

เทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ได้รับความสนใจจาก EC

ในข่าวองค์กร ภาคส่วนเทคโนโลยีจะได้รับความสนใจหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งให้ Amazon (NASDAQ:AMZN), Apple (NASDAQ:AAPL), Alphabet (NASDAQ: GOOGL), Meta (NASDAQ:META) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) พร้อมด้วย ByteDance ของจีน อยู่ในฐานะ "Gatekeepers" ภายใต้พระราชบัญญัติตลาดดิจิทัลฉบับใหม่

บริษัทเหล่านี้จะต้องทำให้แอปส่งข้อความทำงานร่วมกับคู่แข่ง และให้ผู้ใช้ตัดสินใจว่าจะติดตั้งแอปใดไว้ล่วงหน้าบนอุปกรณ์ของตน พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้บริษัทเหล่านี้บังคับให้ผู้ใช้งานใช้บริการของตนเอง หรือห้ามมิให้ผู้ใช้ลบซอฟต์แวร์แอปที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า

ด้าน GameStop (NYSE:GME), ChargePoint (NYSE:CHPT) และ American Eagle Outfitters (NYSE:AEO) เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีกำหนดจะรายงานรายได้ หลังจากปิดตลาด

Manchester United (NYSE:MANU) ก็จะถูกจับตามองเช่นกัน หลังจากที่หุ้นของสโมสรฟุตบอลอังกฤษร่วงลง 18% ในวันอังคาร ซึ่งเป็นการลดลงสูงสุดในวันเดียว ตามรายงานว่าเจ้าของสโมสร ซึ่งเป็นตระกูลเกลเซอร์ กำลังดำเนินการ เพื่อนำสโมสรออกจากตลาด โดยล้มเหลวที่จะซื้อในราคาที่ต้องการ

--Peter Nurse มีส่วนร่วมจัดทำรายงานฉบับนี้