ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น หลังเฟดเผยแนวโน้มหยุดขึ้นอัตรา

โดย Liz Moyer

Investing.com -- ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐเผยว่าใกล้จะสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

เมื่อเวลา 10:06 ET (14:06 GMT) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 240 จุดหรือ 0.7% ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น 1% และ NASDAQ คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 1.6%

ในวันพุธ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามที่คาดไว้ 0.25 เปอร์เซ็นต์ และกล่าวในแถลงการณ์นโยบายว่าการขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่น่าจะเหมาะสมอีกต่อไป การคาดการณ์สำหรับอัตราปลายทางสิ้นสุดที่ 5.1% แนะนำว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้

การยุติการกระชับด้านนโยบายได้สร้างความโล่งใจให้ตลาด แม้ว่าเฟดยังกล่าวด้วยว่าความวุ่นวายล่าสุดในภาคการธนาคารอาจนำไปสู่การถดถอยของเครดิต และนั่นอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นกัน

การดีดตัวของหุ้นในวันพฤหัสบดีเกิดขึ้นหลังจากดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 500 จุดในวันพุธ ประธานเฟดเจอโรม เพาเวลล์มีทางเลือกไม่มากนัก โดยสร้างความสมดุลระหว่างความจำเป็นในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อกับความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพในระบบการเงิน อัตราที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังกดดันธนาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ให้กู้ในภูมิภาค หลังจากการล่มสลายอย่างกะทันหันของ Silicon Valley Bank และ Signature Bank เมื่อต้นเดือนนี้

ตลาดฟิวเจอร์สกำลังเริ่ม คาดเดา เฟดว่าจะเปลี่ยนทิศทางและลดอัตราดอกเบี้ย อาจจะเป็นช่วงต้นเดือนมิถุนายน ขณะที่พาวเวลล์กล่าวว่าเฟดไม่ได้คาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สำหรับการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม ผู้ค้าฟิวเจอร์สเดิมพันกับการหยุดชั่วคราวและขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในไตรมาสที่สี่

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยลดลงเหลือ 191,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 197,000 ราย และเดือนกุมภาพันธ์ ยอดขายบ้านใหม่ เพิ่มขึ้น 1.1% เป็น 640,000 ต่อปีเทียบกับประมาณการสำหรับ 650,000

หุ้นของ Coinbase Global Inc (NASDAQ:COIN) ร่วงลง 17% หลังจากกล่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ส่งหนังสือแจ้งถึงการดำเนินการออกกฏคุมเข้ม

Regeneron Pharmaceuticals Inc (NASDAQ:REGN) พุ่งขึ้น 7% หลังจากผลการทดสอบเป็นบวกจากการทดสอบยารักษาโรคหอบหืด Dupixent ในโรคปอด

น้ำมันเพิ่มขึ้น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 71.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 76.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำ เพิ่มขึ้น 1.8% มาอยู่ที่ 1,984 ดอลลาร์ต่อออนซ์