InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงหลุดแนว 33,000 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ณ เวลา 23.25 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,966.16 จุด ลบ 78.93 จุด หรือ 0.24%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาหุ้นปรับตัวลงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.7% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งระบุว่ามีการขยายตัว 2.9%
การปรับลดตัวเลขประมาณการดังกล่าวมีสาเหตุจากการปรับลดตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากระดับ 2.1% สู่ระดับ 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1/2565 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ก่อนที่จะมีการขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 3
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 192,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,000 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 200,000 รายติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 37,000 ราย สู่ระดับ 1.65 ล้านราย
ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยดัชนี PCE สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)