หุ้นเอเชียร่วงลงในวันพุธเนื่องจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

Investing.com - หุ้นเอเชียร่วงลงในวันพุธเนื่องจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมีผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด

Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.17% ขณะที่ Kospi ของเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง 0.35% ใน Australia S & P / ASX 200 ลดลง 0.27

ในออสเตรเลีย GDP ในไตรมาสสองเพิ่มขึ้น 0.8% ต่ำกว่า 0.9% เมื่อไตรมาสที่แล้วและเพิ่มขึ้น 1.8% รายปีซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9%

ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นรายงานรายได้เงินสดเฉลี่ยลดลง 0.3% เทียบกับที่คาดว่าจะขยายตัว 0.5% ในเดือนสิงหาคม

ดัชนีฮั่งเส็งประเทศจีนลดลง 1.03% ในฮ่องกง Shanghai Composite ลดลง 0.28%

ความตึงเครียดที่คาบสมุทรเกาหลียังคุกรุ่น เกาหลีเหนือกำลังข่มขู่ว่าประเทศกำลังเตรียมพร้อมที่จะส่งมอบ "แพ็คเกจของขวัญ" ไปยังสหรัฐฯหากยังคงกดดันเปียงยางต่อไปเกาหลีใต้กล่าวว่าการทดสอบขีปนาวุธครั้งต่อๆไปอาจเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือหลังจากการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ตลาดยังคงประเมินความคิดเห็นของผู้ว่าการเฟดเลล เบรนาร์ด ในวันอังคารว่าธนาคารกลางสหรัฐฯต้อง "ระมัดระวังนโยบายกระชับทางการเงิน" เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง

คืนนี้หุ้นสหรัฐฯปิดร่วงลงอย่างมากในวันอังคารเนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในคาบสมุทรเกาหลียังคงเป็นอุปสรรคต่องนักลงทุน และเพิ่มความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัย

Dow Jonesปิดตลาดต่ำลงที่ 21,753จุด, S & P 500 ปิดตลาดลดลง 0.75% ขณะที่ Nasdaq Composite ปิดที่ 6375.57 จุดลดลง 0.93%

ในวันแรกของสัปดาห์การซื้อขายในสหรัฐฯหลังจากวันแรงงานวันจันทร์ นักลงทุนหนีสินทรัพย์เสี่ยงและมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและเยนเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากได้รับข่าวการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยางในช่วงสุดสัปดาห์

เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่สามารถติดตั้งบนขีปนาวุธนำวิถีระหว่างทวีปได้นี่เป็นการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2006 และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นอกจากนี้ความเชื่อมั่นในเชิงลบในตลาดหุ้นสหรัฐฯยังเพิ่มขึ้น โดนเฉพาะในกลุ่มการเงินซึ่งส่วนใหญ่เป็นธนาคาร เนื่องจากความคาดหวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่สามในปีนี้หลังจากที่ได้รับความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดเมื่อวันอังคาร

ประธาน Minneapolis Federal Reserve Bank นีล คาชคารี กล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯอาจชะลออัตราเงินเฟ้อและก่อให้เกิด "อันตรายที่แท้จริง" ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

"บางทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเรากำลังทำอันตรายอย่างแท้จริงต่อเศรษฐกิจ" นาย คาชคารี กล่าว

ความเห็นของคาชคารีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ เลล เบรนาร์ด เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าแนวโน้มการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อจะดีขึ้น

ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินจากเจ้าหน้าที่เฟดทั้งสองรายมาก่อนการประชุม Reserve Open Market Committee (FOMC) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน