Investing.com - หุ้นสหรัฐฯ ปรับลงเมื่อคืนนี้ ได้รับแรงกดดันจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเกินคาดและความกังขาต่อข้อตกลงทางการค้ากับจีนเพราะไม่เป็นรูปธรรมมากพอ
ความกังวลต่อสถานการณ์ทางการค้าได้กดดันให้กลุ่มหุ้นพลังงานและหุ้นเทคโนโลยีต่างพากันติดลบ
ดัชนี S&P 500 ย่อตัวลง 0.2% ดัชนี อุตสาหกรรม Dow Jones industrials ขยับลง 0.08% ดัชนี Nasdaq Composite และ Nasdaq 100 ที่เน้นกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีต่างก็ติดลบ 0.3% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Apple (NASDAQ:AAPL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) ปรับลง 0.4% และ 0.8% ตามลำดับ
ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายนหดตัวลง 0.3% ต่างจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวขึ้น ซึ่งการหดตัวดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวกำลังเริ่มส่งผลต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ แล้ว
ในขณะเดียวกันก็เริ่มมีความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้แจงว่าจีนต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐฯ รวมเป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึง 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ "ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี" แต่นักวิเคราะห์บางท่านได้ให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal ว่า ปริมาณการสั่งซื้อดังกล่าวเป็นปริมาณที่มากมายมหาศาลกว่าตัวเลขปกติที่จีนเคยสั่งซื้อจากสหรัฐฯ มาก่อน
สุดท้ายแล้วข้อตกลงทางการค้าครั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับสหรัฐฯ ที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจีน 15% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.56 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเดิมทีจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมเป็นต้นไป แต่จีนอาจเกิดความลังเลต่อการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสหรัฐฯ หากสหรัฐฯ ไม่ยอมระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากร