Investing.com - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ล่าสุดจะสูงขึ้นเกินคาดก็ตาม และยังมีแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ชี้ว่ากลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะยืดเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกด้วย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น 0.6% เท่ากับ $57.11 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00:25 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (04:25 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ก็ขยับขึ้น 0.6% เช่นกัน อยู่ที่ $62.62 ต่อบาร์เรล
ขาขึ้นครั้งนี้ตามมาหลังจากเมื่อคืนนี้กลุ่มโอเปก (OPEC) เผยผลคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันว่าจะลดลงไปในปี 2020 ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่ากลุ่มโอเปกจะต้องควบคุมกำลังการผลิตน้ำมันต่อไป
แม้ข้อมูลต่อไปนี้จะไม่ได้ส่งผลต่อตลาดน้ำมันเท่าไรนัก แต่ตัวเลขจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ล่าสุดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สูงขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน ต่างจากผลคาดการณ์โดยนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรววมมา ซึ่งคาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะเพิ่มขึ้น 1.65 ล้านบาร์เรล
ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังก็เพิ่มขึ้นเกือบ 1.9 ล้านบาร์เรล ต่างจากที่คาดว่าจะลดลงไป 1.17 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณสิ่งกลั่นคงคลังก็ลดลงราว 2.5 ล้านบาร์เรล ต่างจากผลคาดการณ์ที่คาดว่าจะลดลงไป 950,000 บาร์เรล
นักวิเคราะห์ประจำ Investing.com นาย Barani Krishnan ให้ความเห็นไว้ว่า “เป็นอีกครั้งที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังได้เพิ่มขึ้นในระดับที่คาดไว้สำหรับโค้งสุดท้ายของช่วงคาบเกี่ยวระหว่างฤดู และเป็นช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว" และ "ทั้งปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เพิ่มขึ้นมา 2.2 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลต่างก็ออกมาเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังซึ่งสวนทางกับผลคาดการณ์"