โดย Alex Ho
Investing.com - หุ้นเอเชียขยับหลายทิศทางในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ตลาดสหรัฐถล่มลงอย่างหนักอีกครั้งเมื่อคืนนี้
ความพยายามของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกในการช่วยอุ้มเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยกลับไม่สามารถหลีกเลี่ยงขาลงครั้งใหญ่ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ ซึ่งเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์นี้แล้วที่ตลาดหุ้นมีขาลงเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์สองหลักนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday เมื่อปี 1987
ดัชนี Dow 30 ดิ่ง 12.93% และดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 11.98% ส่วนดัชนี NASDAQ Composite ปรับตัวลง 12.32% ขาลงครั้งใหญ่ส่งผลให้เกิดเซอร์กิตเบรคเกอร์เป็นครั้งที่สามในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ได้ออกมาแถลงการณ์แล้วว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงจนเกือบถึง 0 และประกาศใช้มาตรการอัดฉีดเงินมูลค่า 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับไม่สามารถบรรเทาความหวาดหวั่นของผู้ลงทุนได้เลย
ความหวาดกลัวเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อ COVID-19 มีต้นเหตุมาจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ "อาจจะ" กำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ส่วนทางฝั่งเอเชีย ผู้ลงทุนยังคงรับรู้ถึงผลกระทบของการระบาดจากผลผลิตทางอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ของจีนล่าสุดที่ออกมาดิ่งลงเมื่อวานนี้ และดิ่งลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเปิดตัวในแดนลบในวันนี้ 4.03% ก่อนที่จะพลิกกลับมาติดลบเพียง 0.87% เมื่อเวลา 21:53 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2:53 GMT) ดัชนี Shanghai Composite ของจีนปรับตัวลง 0.47% หลังจากก่อนหน้านี้ติดลบ 3.4% และดัชนี Shenzhen Component ของจีนเด้งกลับขึ้นมาจากทรุดตัวลง 5.33% เหลือติดลบเพียง 0.82%