โดย Ambar Warrick
Investing.com - ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเล็กน้อยในวันพุธ หลังจากค่าเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ที่อ่อนตัวเกินคาด ขณะที่สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ส่วนใหญ่ทรงตัวรอรายงานข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ
ในเวลา 00.30 น. ET (04.30 GMT) ค่าเงิน หยวน ลดลง 0.1% เป็น 6.7567 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยดัชนี ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) และ ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีนขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าที่คาดในเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศยังคงเผชิญกับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวเนื่องกับการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ได้สร้างความเสียหาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิตที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมโรงงานยังคงถูกจำกัดอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นลางไม่ดีสำหรับประเทศในเอเชียอื่น ๆ ที่พึ่งพาจีนเป็นปลายทางสำหรับการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ
ค่าเงิน รูเปียห์อินโดนีเซีย ร่วงลง 0.2% ในขณะที่ ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซื้อขายทรงตัว ดัชนีดอลลาร์ ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดอลลาร์
ค่าเงิน รูปีอินเดีย แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ เนื่องจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงทำให้ราคาน้ำมันอินเดียลดลงเช่นกัน สกุลเงินซึ่งเพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 79.522 มีความอ่อนไหวต่อราคาน้ำมันเป็นพิเศษเนื่องอินเดียยังคงพึ่งพาน้ำมันดิบที่มาจากการนำเข้า
ค่าเงิน เยนญี่ปุ่น ขยับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ อัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิต ในเดือนกรกฎาคมของญี่ปุ่นทำสถิติสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ผลผลิตโรงงานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาท่ามกลางราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกก็ตาม
ความเชื่อมั่นในตลาดสกุลเงินเอเชียหายไปก่อนรายงาน ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ครบกำหนดเปิดเผยในเวลา 08.30 ET ในวันนี้ โดยคาดว่าตัวเลขจะลดลงเล็กน้อยเป็น 8.7% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อแผนนโยบายการเงินของ เฟด
แต่ถึงแม้จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยอัตราเงินเฟ้อก็ยังคงรักษาระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีอยู่ ประกอบกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ที่ทำผลงานอย่างแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลลบต่อตลาดเอเชีย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะลดจำนวนเงินทุนต่างประเทศที่สามารถลงทุนได้ในภูมิภาคนี้ ความแตกต่างของอัตราที่แคบลงระหว่างหนี้สหรัฐฯ และหนี้ท้องถิ่นทำให้การลงทุนในภูมิภาคนี้มีความน่าสนใจน้อยลง
ค่าเงินบาท กลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย โดยวันนี้ปรับตัวขึ้น 0.11% มาอยู่ที่ 35.520 บาทต่อดอลลาร์