โดย Zhang Mengying
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเช้าวันอังคารในตลาดเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูท่าทีจากธนาคารกลางรายใหญ่ที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.34% เป็น 104.35 เมื่อเวลา 00:52 น. ET (4:52 น. GMT)
USD/JPY ขยับขึ้น 0.02% เป็น 135.10 โดยอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขากังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา และจะมีมาตรการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของตลาดแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสมหากจำเป็น
AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.32% เป็น 0.6970 และ NZD/USD ทรงตัวที่ 0.6334 ฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กล่าวย้ำเมื่อวันอังคารว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอีก
“เราอยู่ในแผนที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% ถึง 3% ชาวออสเตรเลียควรเตรียมพร้อมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” โลว์เตือน
“ระดับอัตราดอกเบี้ยยังคงต่ำมากสำหรับเศรษฐกิจที่มีการว่างงานต่ำและกำลังประสบกับภาวะเงินเฟ้อสูง”
USD/CNY ลดลง 0.06% เป็น 6.6885 ขณะที่ GBP/USD ขยับขึ้น 0.13% เป็น 1.2267 มีรายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิด19 เกิดขึ้นอีกครั้งในเมืองต่าง ๆ ของจีน ซึ่งรวมถึง เมืองเซินเจิ้น ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเส้นทางการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอนของประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
ธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ ได้ดำเนินการเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดประจำเซนต์หลุยส์ กล่าวเตือนว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ อาจ “แย่ลงหากไม่มีการดำเนินการของเฟดที่น่าเชื่อถือ” ในขณะที่ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเสนอแนะว่าเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านราคา อัตราว่างงานของสหรัฐจะต้องเพิ่มขึ้นสูงกว่า 5% สำหรับระยะเวลาที่ยั่งยืน
ทางฝั่งยุโรป คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตั้งใจที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและกันยายน แม้ว่าจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดในตลาดการเงินก็ตาม
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นกล่าวคำแถลงต่อวุฒิสภาและสภาในวันพุธและพฤหัสบดีนี้