โดย Gina Lee
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ในเช้าวันศุกร์ในเอเชีย โดยร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนในสัปดาห์นี้ ขณะนี้นักลงทุนต่างรอรายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ที่อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มลดสินทรัพย์ลงเร็วกว่าที่คาด
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.04% เป็น 92.188 เมื่อเวลา 22:32 น. ET (2:32 น. GMT) โดยแตะที่ระดับ 92.189 ในช่วงก่อนหน้านี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม
ค่าเงินเยน ย่อตัวลง 0.03% เป็น 109.89 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.05% เป็น 0.7402 ขณะที่ออสเตรเลียเผย ยอดค้าปลีก ในช่วงต้นของวัน ขณะที่ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขยับขึ้น 0.13% เป็น 0.7114
ค่าเงินหยวน ขยับขึ้น 0.05% เป็น 6.4593 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อบริการของ Caixin (PMI) ของจีนสำหรับเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 46.7 ต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ใช้วัดการเติบโตที่ 50
ค่าเงินปอนด์ ขยับขึ้น 0.08% เป็น 1.3841
ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงเล็กน้อย ล่าสุดเปิดตลาดซื้อขายอยู่ที่ 32.550 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
รายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง การจ้างงานนอกภาคการเกษตร จะครบกำหนดในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มีการประมาณการตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรตั้งแต่ 375,000 ถึงหนึ่งล้าน
คอมมอนเวลธ์ แบงค์ ของออสเตรเลีย (OTC:CMWAY) คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะมีตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 800,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้เฟดเริ่มลดสินทรัพย์ลง แม้ว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันจะทำให้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น
“ความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอนของโควิด-19 ขัดขวางการประกาศลดมูลค่าสินทรัพย์ที่กำลังจะมาถึง” ซึ่งจทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า จากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
เฟดตั้งเงื่อนไขการลดสินทรัพย์ โดยอิงจากตัวเลขของตลาดแรงงาน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเกือบตลอดเดือนสิงหาคม พร้อมกับที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์ที่มีสภาพคล่องสูง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่าดอลลาร์จะผ่อนคลายจากสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่งของดอลลาร์ในวันที่ 20 ส.ค. เนื่องจากเฟดบอกเป็นนัยว่าอาจชะลอการเข้มงวดนโยบายการเงินอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่าการลดมูลค่าสินทรัพย์ยังคงสามารถเริ่มได้ภายในปี 2564 ที่การประชุมสัมมนาที่แจ็คสัน โฮล ที่จัดขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า เขายังกล่าวอีกว่าไม่มีความเร่งรีบที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาต่อมา ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก