โดย Gina Lee
Investing.com – ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเช้าวันนี้ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยถูกกดดันจากการยืนกรานครั้งล่าสุดจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดอลลาร์ ขยับลง 0.17% เป็น 92.157 เมื่อเวลา 01:04 น. ET (5:04 น. GMT) หลังจากร่วงลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สามในช่วงก่อนหน้า
ค่าเงินเยน ปรับลดลง 0.10% เป็น 109.78
ค่าเงินออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.03% เป็น 0.7378 โดยการขยายเวลาล็อคดาวน์ในซิดนีย์ยังคงทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจออสเตรเลียและเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีความเสี่ยง ขณะที่ ค่าเงินนิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้น 0.32% เป็น 0.6969 โดยที่ ดัชนีความเชื่อมั่นจากกลุ่มธนาคาร ANZ ของนิวซีแลนด์ตกลงมาที่ -3.8 ในเดือนกรกฎาคม
ค่าเงินหยวน ลดลง 0.26% มาที่ 6.4738
ความพยายามที่จะระงับความปั่นป่วนของตลาดจากการปราบปรามภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การศึกษาภาคเอกชน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน ตามรายงานของรองประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC)
ค่าเงินปอนด์ ขยับขึ้น 0.21% เป็น 1.3927
ค่าเงินบาท ซื้อขายอยู่ที่ 32.875 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะสูงขึ้นหลังการตัดสินใจเชิงนโยบายของเฟด แต่ก็ร่วงลงไปใกล้ระดับต่ำสุดที่ 1.1849 เมื่อเทียบกับเงินยูโรหลังจากที่พาวเวลล์ออกมาแสดงความคิดเห็น
"ตลาดมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเห็นของพาวเวลล์ และความเชื่อมั่นในความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นก็สัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง" เรย์ แอททริล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ FX ของ National Australia Bank (OTC:NABZY) กล่าวกับรอยเตอร์
เงินปอนด์เป็นปัจจัยหนุนสำคัญในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสัญญาณบวกเริ่มต้นจากการที่อังกฤษยกเลิกมาตรการคุมเข้ม ตัวเลขสะสมของผู้ป่วยโควิดในอังกฤษก็ลดลง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เตือนว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสถานการณ์ใด ๆ
แอททริลกล่าวเสริมว่า "ในขณะนี้ สถานการณ์โควิดในอังกฤษค่อนข้างดีขึ้นและมันส่งผลต่อตลาด"
ขณะนี้นักลงทุนต่างรอการเปิดเผยข้อมูลแรงงานและภาวะเงินเฟ้อของเยอรมนีในช่วงท้ายของวัน ซึ่งรวมถึง ตัวเลข การเปลี่ยนแปลงอัตราว่างงาน และ อัตราเงินเฟ้อ ในเดือนกรกฎาคม รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค ขณะที่สหรัฐจะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสสอง ภายในวันนี้