โดย Gina Lee
Investing.com – ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันนี้ และทรงตัวขณะที่นักลงทุนกำลังรอฟังคำปราศรัยของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด หลังจากที่ตกตะลึงกับ การตัดสินใจเชิงนโยบายล่าสุดของเฟด ในช่วงก่อนหน้านี้
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.04% เป็น 91.922 ในเวลา 00.00 น. ET (4:00 GMT)
ค่าเงินเยน ขยับขึ้น 0.11% เป็น 110.42
ค่าเงินออสเตรเลีย ลดลง 0.26% เป็น 0.7515 และ ค่าเงินนิวซีแลนด์ ขยับลง 0.14% เป็น 0.6976 ดอลลาร์
ค่าเงินหยวน ลดลง 0.02% เป็น 6.4645 ดอลลาร์
ค่าเงินปอนด์ ลดลง 0.10% เป็น 1.3914 นักลงทุนกำลังรอการเปิดภาคเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค. เช่นเดียวกับ การตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ในวันพฤหัสบดีนี้
ค่าเงินบาท อ่อนตัวต่อเนื่อง +0.14% ซื้อขายอยู่ที่ 31.635 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่การตัดสินใจของเฟดเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งบอกเป็นนัยว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดสัดส่วนสินทรัพย์อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด
"เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีของเฟดที่แข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย รวมถึงการปิดสถานะการขายดอลลาร์จำนวนมหาศาลทั่วโลกทิ้งไปแล้ว ตอนนี้เรารู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ก่อนที่ค่าเงินจะขยับขึ้นในครั้งต่อไป" อิมเร สไปเซอร์ นักวิเคราะห์สกุลเงินของ Westpac กล่าวกับรอยเตอร์
นักลงทุนกำลังมุ่งเน้นไปที่ตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งข้อมูลในเรื่องดังกล่าวอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟด นอกจากนี้ พวกเขายังรอฟังคำปราศรัยของพาวเวลล์ต่อหน้าคณะอนุกรรมการสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาในวันนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์ได้รับทราบข้อมูลของตลาดแรงงานและการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว
เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ รวมถึงนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดแห่งดัลลาส ก็แสดงความเห็นไปในทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ตาม นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์ก เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะเปลี่ยนนโยบาย เนื่องจากเขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายจากประมาณ 3% ในปีนี้ เป็นประมาณ 2% ภายในปี 2022 และ 2023
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังไม่มั่นใจในการคาดการณ์ของวิลเลียมส์
ทอม พอซเซลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RBC Capital Markets กล่าวรายงานว่า "เฟดมักจะตามสถานการณ์ไม่ค่อยทัน" ด้วยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่อาจสูงขึ้นใกล้ระดับ 3% ภายในสิ้นปี 2022 "นั่นไม่ใช่เพียงแค่ 2%" ซึ่งในที่สุดเฟดก็รู้สึกกดดันที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
“ในระหว่างนี้ เราไม่สงสัยเลยกับการคาดการณ์คร่าว ๆ ไว้ที่ 2% พาวเวลล์จะพยายามลดโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 แต่ในขณะที่เขาจะยอมจำนน เขาก็จะไม่ยอมเลิกหารือเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ดี เพียงแค่ยืดเวลาออกไปให้นานขึ้น” รายงานระบุเพิ่มเติม
ทางด้านสกุลเงินดิจิตอล ราคา Bitcoin และ Ethereum ต่างร่วงลง ซึ่งเกิดจากการปราบปรามการซื้อขายและการขุดเหรียญในประเทศจีนที่เข้มข้นขึ้น นอกเหนือไปจากปัจจัยทางเทคนิค
“กระแสความกลัวว่าจะขายไม่ออก กำลังคืบคลานเข้ามา” คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone กล่าวกับรอยเตอร์
“Bitcoin กำลังตกอยู่ในทางสองแพร่ง” มันกำลังอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดของเดือนพฤษภาคมที่เกือบ 30,000 ดอลลาร์ ส่วน Ethereum ก็ดูจะแย่ไม่แพ้กัน และหากเงินคริปโตเป็นเพียงสินทรัพย์ทางอารมณ์ คุณจะต้องมีความแข็งแกร่งอย่างมากที่จะถือครองมันต่อไป โดยไม่เปลี่ยนใจไปหาสินทรัพย์อื่นเพื่อป้องกันความเสี่ยง” เขากล่าวเสริม