Investing.com - สกุลเงินเอเชียเผชิญความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงได้ส่งผลให้พรรครีพับลิกันชนะอย่างถล่มทลาย นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุในบันทึกล่าสุด
นักวิเคราะห์ของ JPM ระบุว่าดอลลาร์แข็งค่าในเซสชั่นที่ผ่านมา ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ เหนือกมลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเอเชีย
สกุลเงินที่พึ่งพาการค้าอาจเผชิญความเสี่ยงต่อการอ่อนค่า เนื่องจากนโยบายของทรัมป์ยังคงเน้นไปที่การขึ้นภาษีสินค้าจากประเทศคู่ค้าหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน โดย JPM ระบุว่าสกุลเงินรูปีของอินเดียอาจเป็นแหล่งพักพิงจากแนวโน้มนี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีการแข็งค่าของบัญชีเดินสะพัดภายในประเทศในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
เงินหยวนจีนยังคงเปราะบางต่อการ "ปรับราคาใหม่" ของทรัมป์ นักวิเคราะห์ของ JPM ระบุ เนื่องจากทรัมป์ได้เสนอให้ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอย่างมากในนโยบายของเขา
แม้ว่าตลาดจีนจะได้รับประโยชน์จากความคาดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่การชนะเลือกตั้งของทรัมป์ก็อาจส่งผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงต่อการค้าดังกล่าว
“เรามองว่ามีความเสี่ยงที่ USDCNY อาจทะลุระดับ 7.30 อีกครั้งหากทรัมป์ชนะ แต่จะลดลงต่ำกว่าระดับ 7 หากแฮร์ริสชนะ” JPM กล่าว
ดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับชัยชนะของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่นโยบายที่ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในจังหวะที่ช้าลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
แนวโน้มดังกล่าวได้ส่งผลให้ตลาดสกุลเงินเอเชียถูกกดดันอย่างมาก โดยเฉพาะสกุลเงินหลักอย่างเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย JPM ระบุว่าจีน เกาหลีใต้ และกลุ่มอาเซียน (ยกเว้นฟิลิปปินส์) นั้นถือเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดในช่วงที่เงินดอลลาร์แข็งค่า
ขณะที่อินเดีย ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีกว่า
นอกจากนี้ กลุ่มหุ้นที่พึ่งพารายได้จากสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของดอลลาร์