InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (28 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนอย่างคึกคัก ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.54% แตะที่ระดับ 101.094
ดอลลาร์สหรัฐสหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.66 เยน จากระดับ 144.02 เยนในวันอังคาร (27 ส.ค.) นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8422 ฟรังก์ จากระดับ 0.8414 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3475 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3448 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1116 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1185 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3187 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3259 ดอลลาร์สหรัฐ
บอริส โควาเซวิค นักวิเคราะห์จากบริษัท Convera เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน ซึ่งช่วยให้ดอลลาร์ฟื้นตัวหลังจากที่อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ดอลลาร์อ่อนค่าลงถึง 5%
สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย.