InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.99 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.01-34.12 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าตามสกุลเงินอื่นใน ภูมิภาค และแม้การรายงานตัวเลขส่งออกของไทยเดือนก.ค. ที่ขยายตัวสูงถึง 15% ก็ไม่ได้มีผลต่อเงินบาทมากนัก เพราะการนำเข้าก็เพิ่ม สูงขึ้นเช่นกัน ทำให้ไทยกลับมาขาดดุลการค้าอีกครั้งในเดือนก.ค. "การส่งออก ค่อนข้างส่งผลที่จำกัดต่อเงินบาท เพราะแม้ส่งออกจะขยายตัวได้สูง แต่การนำเข้าก็สูงเช่นกัน และทำให้ไทย กลับมาขาดดุลการค้าอีก" นักบริหารเงิน ระบุ คืนนี้ ตลาดรอดูการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ รวมทั้งยังติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.20 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.79 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 144.72 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ะรดับ 1.1166 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,364.31 จุด ลดลง 0.50 จุด (-0.04%) มูลค่าซื้อขาย 43,499.35 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,077.54 ล้านบาท - กระทรวงพาณิชย์ เผยมูลค่าการส่งออกเดือนก.ค.67 อยู่ที่ 25,720.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 15.2% มากกว่าที่ตลาด คาดการณ์ไว้ที่ 5-8% และเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่มี.ค.65 ส่วนมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 27,093.8 ล้าน ดอลลาร์ ขยายตัว 13.1% ส่งผลให้ในเดือนก.ค. ไทยกลับมาขาดดุลการค้า 1,373.2 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยังคงเป้าหมายการส่งออกทั้งปี ที่ 1-2% - ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.ค.67 อยู่ที่ 83,527 คัน ลดลง 22.70% (YOY) เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน และ ประสบปัญหาเรื่องการขนส่งจากสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง โดยมีมูลค่าการส่งออก 81,434.29 ล้านบาท ลดลง 11.71% จาก เดือน ก.ค.66 ทั้งนี้ คาดว่ายอดส่งออกรถยนต์จะยังเป็นไปตามเป้า และมีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านบาท - ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 ส.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 23,096,752 คน สร้างรายได้จาก การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,086,786 ล้านบาท - แบงก์ชาติ เผยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 2/67 ขยายตัวชะลอลงที่ 0.3% สินเชื่อธุรกิจโดยรวม ทรงตัว ขณะที่สินเชื่อ SMEs หดตัวต่อเนื่อง และสินเชื่ออุปโภคบริโภค ขยายตัวชะลอลงตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่ปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ ยอดคง ค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ไตรมาส 2/67 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 540.8 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.84% จากสินเชื่ออุปโภคบริโภคเป็นสำคัญ - แบงก์ชาติ ติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจ SMEs ขนาดเล็ก ธุรกิจในกลุ่มที่ผลประกอบการอาจได้รับผล กระทบจากปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลง รวมทั้งครัวเรือนบางกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเปราะบาง จากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งคาดว่าจะยังส่งผลให้ NPL ทยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ และไม่เกิดการเพิ่มขึ้น อย่างก้าวกระโดด (NPL cliff) - องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศแผนยุทธศาสตร์ทั่วโลก เพื่อเตรียมความพร้อมและรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค ฝีดาษลิง (mpox) ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ โดยจะดำเนินการตั้งแต่เดือนก.ย.67 ถึง เดือนก.พ.68 ใช้เงินทุนจำนวน 135 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ - สำนักงานสถิติเยอรมนี เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 0.1% ในไตรมาส 2/2567 เมื่อ เทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการเบื้องต้น หลังจาก GDP ขยายตัว 0.2% ในไตรมาสแรก - ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, GDP ไตรมาส 2/2567 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย)