🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.97/98 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลลาร์อ่อน รับสัญญาณเฟดลดดอกเบี้ย

เผยแพร่ 27/08/2567 00:35
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.97/98 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลลาร์อ่อน รับสัญญาณเฟดลดดอกเบี้ย
USD/THB
-

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.97/98 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.93 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.87-34.04 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคยังแข็งค่า จากทิศทางดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า หลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.ค.) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาแถลงยืนยันที่จะลด ดอกเบี้ย ประกอบกับราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วย "เงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 33.87 บาท/ดอลลาร์ เป็นระดับที่แข็งค่าสุดในรอบ 1 ปีกว่า ๆ หรือตั้งแต่เดือนก.ค.66" นัก บริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.80-34.10 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.97/98 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 143.81 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1173/1175 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1188 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,364.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.94 จุด (+0.73%) มีมูลค่าการซื้อขาย 47,339.20 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 466.21 ลบ.(SET+MAI) - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินทิศทางเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวใน กรอบ 33.75-34.30 บาท/ดอลลาร์ หลังจากเปิดตลาดช่วงเช้าเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือน โดยนักลงทุนจะให้ความ สนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในปลายสัปดาห์นี้ - รมว.คลัง ระบุว่า เงินบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้นมาก เป็นไปตามภาวะตลาดการเงินโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ ค่าเงินบาทจะแข็งค่าและอ่อนค่าตามปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก และมองว่ายังไม่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออกแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบัน ปริมาณ และราคาสินค้าส่งออก ยังอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง - รมว.คลัง กล่าวว่า ปัจจุบันดัชนี SET อยู่ที่ 1,300 จุดเศษ ๆ ซึ่งลดลงค่อนข้างมากจากระดับสูงสุดเดิม ทำให้ความมั่งคั่ง ของนักลงทุนลดลง โดยที่กระทรวงการคลัง คาดหวังจะเห็นดัชนี SET กลับขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,800 จุด ซึ่งมี Market Cap อยู่ที่กว่า 20 ล้านล้านบาท ทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับมามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น - ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 ไว้ที่ 2.5% แต่ปรับ ลดมุมมองเศรษฐกิจปี 68 เหลือ 2.6% หลังภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ออกมาใกล้เคียงที่ประเมินไว้ แต่แรงส่งเศรษฐกิจ รายองค์ประกอบต่างไปบ้าง โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังได้แรงส่งหลักจากภาคท่องเที่ยว และแรงสนับสนุนจากการบริโภคเอกชนตาม มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชั่วคราว สำหรับเงินเฟ้อทั่วไป จะขยายตัวต่ำลงอยู่ที่ 0.6% (เดิม 0.8%) ในปีนี้ สะท้อนความต่อเนื่องของ มาตรการภาครัฐชะลอการทยอยปรับขึ้นราคาพลังงานในประเทศตลอดปี - ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ประเภท 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ของจีน ไว้ที่ระดับ 2.3% ในวันนี้ หลังจากที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.20% ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน PBOC ได้ ระบายเงินสดสุทธิออกจากระบบธนาคารจำนวน 1.01 แสนล้านหยวน (1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) - สมาชิกหลายคนของสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในการประชุมที่แจ็กสัน โฮลว่า พวกเขาจะสนับสนุน ให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนหน้า (ก.ย.) โดยสมาชิก ECB เหล่านี้รวมถึงผู้ว่าการธนาคารกลางฟินแลนด์, ประธานธนาคารกลางลัตเวีย, ผู้ว่าการธนาคารกลางโครเอเชีย และผู้ว่าการแบงก์ชาติโปรตุเกส ทั้งนี้ ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยใน เดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี นับตั้งแต่เดือนก.ย.62 - ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ บริโภคเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, GDP ไตรมาส 2/2567 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีราคาการใช้จ่าย เพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย