InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (9 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนพากันถือดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.03% แตะที่ระดับ 106.0778
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0566 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0591 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (6 ต.ค.) ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2236 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2244 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 148.4380 เยน จากระดับ 149.3570 เยนในวันศุกร์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.9607 โครนา จากระดับ 10.9390 โครนา ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9054 ฟรังก์ จากระดับ 0.9094 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3586 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3655 ดอลลาร์แคนาดา
กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล ส่งผลให้ชาวอิสราเอลถูกสังหารกว่า 700 ราย
ทางด้านอิสราเอลตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ทำให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่กลุ่มฮามาสได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 500 ราย ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของตะวันออกกลางด้วยการตอบโต้กลุ่มฮามาสอย่างสาสม
นอกจากนี้ มีรายงานว่าอิสราเอลได้ทำการปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ โดยจะตัดขาดการส่งกระแสไฟฟ้า พลังงาน อาหารและน้ำจากอิสราเอลเข้าไปในดินแดนดังกล่าว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ในวันพุธนี้ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด