InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.93 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.74 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางตาลาดโลก แต่อ่อนค่ามากสุดในภูมิภาค ระหว่างวันเคลื่อนไหวใน กรอบ 36.69 - 36.93 บาท/ดอลลาร์ "บาทปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องทำนิวไฮในรอบ 11 เดือน อ่อนค่าสุดในภูมิภาค อาจเป็นผลจากการนำเข้าทองคำและน้ำมัน แนว โน้มพรุ่งนี้มีโอกาสอ่อนค่าทะลุ 37 บาท" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.85 - 37.10 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีการ ประกาศตัวเลขดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 149.72 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 149.64 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ 1.0541 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0562 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,469.46 จุด ลดลง 1.97 จุด, -0.13% มูลค่าการซื้อขาย 45,356.23 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 648.47 ล้านบาท (SET+MAI) - นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง หารือ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในทุกเรื่อง รวมทั้งนโยบายที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการเพื่อรับฟังความเห็น ข้อมูล และข้อเสนอของ ธปท. ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง - นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลกำหนดเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ คือ การทำให้ GDP ของประเทศโตเฉลี่ย 5% ตลอด 4 ปีนี้ และทำให้รายได้ขั้นต่ำให้ถึง 600 บาทในปี 2570 เป็นจุดเริ่มต้นของแผนการมุ่งหน้าสู่การเป็นประเทศรายได้สูง - ธนาคารโลก (World bank) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวได้ 3.4% เร่งตัวขึ้นจาก 2.6% ในปี 65 แต่ ลดลงจากก่อนหน้านี้ ที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.9% โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการ บริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะที่คาดว่าการส่งออกจะหดตัว -2.1% ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 67 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% และ ปี 68 คาดการณ์ที่ 3.3% จากผลของการท่องเที่ยวและภาคเอกชนเติบ โต โดยในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยนั้น คาดว่าจะกลับมาเทียบเท่ากับระดับก่อนเกิดโควิดได้ภายในสิ้นปี 67 - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนก.ย.66 อยู่ที่ 50.4 ปรับเพิ่มขึ้นจาก เดือนส.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.9 จากด้านการผลิต, คำสั่งซื้อ และผลประกอบการเป็นสำคัญ โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่ม ขึ้นมาใกล้เคียงระดับ 50 อีกครั้ง จากกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยาง และพลาสติก รวมถึงกลุ่มผลิตเหล็ก ที่ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นในเกือบ ทุกด้าน - ธนาคารโลก ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและ แปซิฟิก เนื่องจากเศรษฐกิจจีนและอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัว ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและการค้าที่ซบเซา - สำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 4.3% ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 และลดลงจากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวช่วยให้ตลาดมีความ มั่นใจว่า ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียงพอแล้วที่จะฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ภายในปี 2568 หลังจากเงินเฟ้อพุ่งทะยาน ขึ้นอย่างสูงตั้งแต่ปี 2564