โดย Peter Nurse
Investing.com - ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในเซสชั่นการซื้อขายช่วงเช้าของตลาดยุโรปวันนี้ เนื่องจากเทรดเดอร์เฝ้ารอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคต
เมื่อเวลา 03:05 น. ET (07:05 GMT) ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ อีกหกสกุล ซื้อขายลดลง 0.2% เป็น 101.700
EUR/USD เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 1.0930 และ GBP/USD ซื้อขายสูงขึ้น 0.1% เป็น 1.2431 ในช่วงการซื้อขายแคบ ๆ
จุดสนใจหลักในวันพุธคือรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม เนื่องจากเทรดเดอร์พยายามติดตามการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ
โดยทั่วไปแล้วตลาดเชื่อว่าเฟด จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งหนึ่งอีก 25 จุดพื้นฐานในรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้
แพทริค ฮาร์เกอร์ประธานเฟดแห่งฟิลาเดลเฟีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขารู้สึกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายอาจใกล้เข้ามาแล้ว ขณะที่ จอห์น วิลเลี่ยมส์ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามา
ดัชนี CPI มีกำหนดเปิดเผยในเวลา 08:30 ET (12:30 GMT) และคาดว่าจะอยู่ที่ 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจาก 6.0% ก่อนหน้านี้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็น 5.6% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือการเผยแพร่ บันทึก การประชุมเฟดครั้งล่าสุด ซึ่งอาจเปิดเผยความคิดของผู้กำหนดนโยบาย เพราะพวกเขาได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเมื่อเดือนที่แล้วท่ามกลางวิกฤตธนาคาร
“สัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าเฟดใกล้จะถึงจุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยแล้ว และจะสามารถถึงขั้นลดอัตราดอกเบี้ยได้หากจำเป็น จะถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงในเชิงบวกและทำให้ดอลลาร์ติดลบ” นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในหมายเหตุ
สกุลเงิน AUD/USD ที่อ่อนไหวต่อความเสี่ยงปรับเพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 0.6655 ขณะที่ USD/JPY ขยับลดลงมาที่ 133.60 ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเพียงเล็กน้อย ซึ่งเทรดเดอร์เห็นว่านโยบายการเงินของเฟดและคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารคนใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงต่างกันมาก