🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.43/45 ตลาดจับตาผลประชุมเฟดชี้ทิศทางดอกเบี้ย

เผยแพร่ 23/03/2566 00:39
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.43/45 ตลาดจับตาผลประชุมเฟดชี้ทิศทางดอกเบี้ย
USD/THB
-
SETI
-

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.43/45 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 34.53 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30 - 34.55 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่า เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อ่อนค่า ปัจจัยเงินบาทเป็นไปตาม แรงซื้อขายทั่วไป นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20 - 34.60 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ * ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 132.51/52 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 132.68 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0788/0790 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0774 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,585.08 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด (+0.50%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 51,001 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,132.37 ลบ. (SET+MAI) - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 มี.ค. 66 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า ประเทศแล้ว 5,578,721 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ 215,052 ล้านบาท โดยภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ทั้งการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย และการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติ - วายแอลจี ปรับเป้าหมายราคาทองคำปี 66 ใหม่ เป็น 2,075-2,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ รับปัจจัยหนุนนักลงทุนกังวล วิกฤตภาคธนาคารสหรัฐและยุโรปอาจไม่จบง่าย ส่งผลเฟดเติมเงินสู่ระบบและมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง ดันทองคำทะยานทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ จับตาหากเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยและเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ มีลุ้นขึ้นทดสอบ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่ทองคำในประเทศมองกรอบ 33,800 บาท/บาททองคำ (เงินบาท 34.40 บาท/ดอลลาร์) - ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) คาดการณ์ว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะ เติบโตได้ราว 3.4% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องเผชิญอีกมาก โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ คงไม่ถึงขั้นหดตัว, ปัญหาสถาบันการเงินขาดสภาพคล่อง ซึ่งจะมีผลกระทบมาถึงภาคการส่งออกของไทยได้ - ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. ภัทร ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ราว 3.5% ถือว่าฟื้นตัวขึ้นจากปี 65 แต่มองว่าภายใต้การฟื้นตัวดังกล่าวเป็นการฟื้นตัวที่ประกอบด้วย 3 ลักษณะ คือ 1. ฟื้นตัวแบบไม่เต็มที่ 2. ฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง และ 3. ฟื้น ตัวแบบมีห่วง ขณะที่ภาคการส่งออกของไทยปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตได้ในระดับต่ำ จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว - ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยรายงานในวันนี้ (22 มี.ค.) ระบุว่า ธนาคารในภูมิภาคเอเชียอาจจะเผชิญกับความยากลำบากในการ ระดมเงินทุนด้วยการออกตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 หลังจากหน่วยงานของรัฐ บาลสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดมูลค่าตราสาร AT1 ของเครดิต สวิส เหลือศูนย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการเทกโอเวอร์กิจการโดยธนาคาร ยูบีเอส - สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (22 มี.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อ ของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 10.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี จากระดับ 10.1% ในเดือนม.ค. ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดจะประกาศในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 11 ติดต่อกันหรือไม่

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย