โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – ประเด็นที่น่าสนใจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศบศ. อัพเดทความคืบหน้าโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”. หลังผ่านไป 1 เดือน มียอดนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่ประมาณ 17,000 คน เงินกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้
ในขณะที่ กพท. เตรียมยื่น ศบค. ผ่อนปรนเปิดบินในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 นี้ รวมทั้งให้เพิ่มความจุผู้โดยสารภายในเครื่องบินเป็น 70% ต่อลำ จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 50% ต่อลำ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าโดยสารที่ได้ปรับขึ้นไปราว 3 เท่าจากปกติ
นอกจากนี้ กลุ่มหุ้นเด่นก็ยังไม่พ้นกลุ่มการแพทย์ โดย RPH รายงานกำไรไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2564 ที่ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +289 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา แต่ลดลง -26% เมื่อเทียบรายไตรมาส เนื่องจากไตรมาส 2/64 เป็นช่วงที่การระบาดโควิดลดลง และผลดีจากการระบาดระลอกใหม่จะไปอยู่ในช่วงไตรมาส 3/64 มากกว่า บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.05 บาท วันที่ 23 สิงหาคม 2564
3 สิ่งที่เป็นปัจจัยในการลงทุนช่วงนี้
1. ดอลลาร์แข็ง
บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ ชี้ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การลดการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เราคงมุมมองระมัดระวังต่อหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 และความเสี่ยงทางลงของดัชนีหุ้นไทยที่ 1,450-1,520 จุด
2. ตัวเลขโควิดลวงตา
แม้วันนี้ ตัวเลขโควิดจะลดลง โดย ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 19,603 ราย หายป่วย 19,819 ราย แม้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง และจำนวนผู้หายป่วยมากกว่าผู้ติดเชื้อ แต่ก็ยังคงระมัดระวังว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต่ำอาจมาจากติดช่วงวันหยุด ขณะที่ตัวเลขผู้หายป่วย น่าจะเป็นผลจากการปรับลดเกณฑ์ระยะเวลาอยู่ในสถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นแล้ว เพื่อลดอัตราการครองเตียง ทั้งนี้จากการที่ประมาณการของกองระบาดวิทยาประเมินจุดสูงสุดของการติดเชื้อจะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน (ขึ้นกับล็อคดาวน์ 1 หรือ 2 เดือน) ทำให้ยังคงต้องระมัดระวังกับการมองตัวเลขผู้หายป่วยที่แซงการติดเชื้อ ซึ่งเริ่มกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของสินค้าอุปโภคบริโภค จากการที่สินค้าบางประเภทเริ่มขาดแคลน หรือหายไปจากชั้นวาง
3. ประเด็นน่าติดตาม
วันที่ 11 สิงหาคม 2564 จะมีการเปิดเผยตัวเลข MSCI Rebalance และตัวเลข US CPI ของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ได้เห็น ส่วนในวันที่ 25 สิงหาคม จะเป็นตัวเลข US PPI รวมถึงตัวเลขอัตราการว่างงานในสหรัฐ และรายงานจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน OPEC รายเดือน