รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 สิ่งที่ต้องจับตา: บาทอ่อน, โควิดทุบตลาดทุน, เศรษฐกิจชะลอตัว

เผยแพร่ 04/08/2564 15:32
อัพเดท 04/08/2564 15:34

โดย วณิชชา สุมานัส

Investing.com – บรรยากาศการลงทุนเช้านี้ ทั้งตลาดทุนและตลาดเงินไม่ได้เป็นไปอย่างคึกคักนัก ปัจจัยลบหลัก ๆ ก็ยังเป็นยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ตลาดหุ้นไทย (SET) ภาคเช้า ปิดทำการเมื่อเวลา 12.30 น. ดัชนีปรับตัวลดลง 4.77 จุด แตะ 1,535.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,185.64 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 454 หลักทรัพย์ ลดลง 934 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 564 หลักทรัพย์

ทั้งนี้ ดัชนีรีบาวด์และปิดสร้างแท่งเทียนเขียวเต็มแท่ง พร้อมค่าสัญญาณ RSI ที่ดีดตัวขึ้นจากภาวะโอเวอร์โหลดหนุนการรีบาวด์ โดยค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่เคลื่อนไหวสวนทางกันทำให้การรีบาวด์เป็นไปได้จำกัด มองแนวต้านถัดไปที่ 1,550-1,554 จุด ทั้งนี้ แนะนำ ให้ขายทำกำไรที่แนวต้าน 1,550-1,554 จุด ส่วนหุ้นแนะนำทางเทคนิค ได้แก่ STA ดีดตัวกลับมายืนเหนือเส้น EMA ระยะกลาง พร้อมวอลุ่มเริ่มกระตุก และเพิ่งส่งสัญญาณซื้อ หากผ่าน 42.50 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 45.50 บาท และหุ้น CK ที่ทยอยไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง พร้อมปริมาณการซื้อขายสะสม โดยมี MACD ส่งสัญญาณบวกหนุน คาดราคามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 19.50-20.10 บาท

นส่วนที่จับตากันมาตลอดในแง่ของดอกเบี้ยนโยบาย โดยมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. บ่ายวันนี้นั้น นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง.ครั้งที่ 5/2564 ในวันนี้ว่า กนง. มีมติ 4:2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี ทั้งนี้ กนง. หั่นคาดการณ์ จีดีพีปีนี้ เหลือโต 0.7% จากเดือน มิ.ย. ที่ 1.8%

3 ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ได้แก่

1. เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนต่อ
ค่าเงินบาทในวันนี้ทะลุ 33 แล้ว โดย บล. กรุงศรี ยังคาดอีกว่า เงินบาทไทยยังมีแนวโน้มจะอ่อนต่อ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากประเทศไทยกำลังประสบภาวะโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมองว่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีก อย่างน้อยก็ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเราประเมินว่าค่าเงินบาทยังมีดาวน์ไซด์จากระดับปัจจุบันอีกประมาณ 3-4% ขึ้นกับสถานการณ์โควิด-19 และ สภาวะแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองในช่วงไตรมาสต่อ ๆ ไป ทั้งนี้ หุ้นที่เราชอบในธีมค่าเงินบาทอ่อน ได้แก่ EPG, GFPT, MINTTU และ ASIAN

2. โควิดยังทุบตลาดทุน
วันนี้ นอกจากเงินบาทไทยจะได้รับผลกระทบแล้ว บล. กรุงศรี ยังมองอีกว่า จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกที่เศรษฐกิจจะถดถอย และถึงแม้การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐในช่วงนี้จะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง แต่เชื่อว่า ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง โดยพบว่า ค่าเงินบาทอ่อนลงมากกว่าค่าเงินสกุลอื่น ๆ ในภูมิภาคอย่างมาก โดยเริ่มอ่อนค่ามากกว่าเพื่อนบ้านตั้งแต่ประมาณปลายไตรมาส 1 ปี 2564 ถึงต้นไตรมาส 2 ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดระลอกล่าสุดเริ่มต้นขึ้น ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของประเทศไทยลดลงอย่างมาก ตามอัตราการติดเชื้อที่เร่งตัวขึ้นในประเทศไทย

3. เศรษฐกิจจะแย่ลงอีก
เศรษฐกิจแต่ละประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น ช่วงนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในแต่ละประเทศเป็นหลัก โดย บล. กรุงศรี มองว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่เร่งตัวขึ้นเป็นปัจจัยหลัก อีกทั้งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของแต่ละประเทศยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความรุนแรงของผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเศรษฐกิจ ความสามารถของระบบการรักษาพยาบาลในการรองรับผู้ติดเชื้อ อัตราการกระจายวัคซีน การสนับสนุนในเชิงนโยบายจากรัฐบาล และความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล

ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในตัวชี้วัดแนวโน้มการเติบโตที่เชื่อถือได้อีกอย่างคือ อัตราผลตอบแทนระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเราพบว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ลดลงจาก 1.7% ในปลายเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 1.54% ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน สเปรดที่ห่างกว้างขึ้นระหว่าง อัตราผลตอบแทนของไทย กับภูมิภาคก็ช่วยยืนยันแนวโน้มที่อ่อนแอของเศรษฐกิจไทย ซึ่งส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง

นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของปริมาณเงินในความหมายกว้างที่ลดลงอย่างหนักก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอ่อนค่าของเงินบาท เรามองว่า ณ จุดนี้ ค่าเงินบาทยังไม่น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะโตต่ำกว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอีกพอสมควรไปจนถึงปี 2565 เป็นอย่างน้อย

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย