โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคมมีดังต่อไปนี้
1. การระบาดเริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมากขึ้น ทรัมป์หันมาสวมหน้ากากอนามัย
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เผยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่มากเกิน 230,000 ราย ส่วนสหรัฐก็พบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันสูงถึง 70,000 ราย และภายในรัฐฟลอริดารัฐเดียวก็มีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 15,000 ราย มากกว่ายอดสูงสุดของรัฐนิวยอร์กเมื่อครั้งเกิดการระบาดระลอกแรกในเดือนเมษายน
ทำเนียบขาวเริ่มแสดงจุดยืนที่ต้องการถอยห่างออกจากดร.แอนโธนี เฟาชี หัวหน้าสถาบันภูมิแพ้และโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐ หลังจากเฟาชีส่งสัญญาณเตือนหลายครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลสหรัฐยังรับมือกับการระบาดได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้สวมหน้ากากอนามัยเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ หลังจากต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัยมาโดยตลอดและยังล้อเลียนผู้ที่สวมหน้ากากอนามัยอีกด้วย
2. การควบรวมกิจการของบริษัทผู้ผลิตชิพ Analog และ Maxim
Analog Devices (NASDAQ:ADI) จะควบรวมกิจการกับ Maxim Integrated (NASDAQ:MXIM) ในการตกลงควบรวมกิจการแบบได้มาซึ่งหุ้นทั้งหมด และถือเป็นการทำสัญญาควบรวมกิจการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐปีนี้
การควบรวมกิจการจะก่อให้เกิดเครือบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากถึง 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐและมีรายได้รายปีเกือบถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ผู้ถือหุ้นของ Maxim จะเป็นเจ้าของเครือบริษัทดังกล่าวในอัตราส่วนหนึ่งในสาม
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวกหลัง Goldman ปรับผลคาดการณ์
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนบวกโดยไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
กลุ่มนักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้ปรับผลคาดการณ์สำหรับผลกำไรต่อหุ้นพื้นฐานประจำปี 2020 ของบริษัทต่าง ๆ ในดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเป็น $115 จากก่อนหน้านี้ $110 โดยทีมของเดวิด คอสติน ได้เน้นย้ำว่าสำหรับการรายงานผลประกอบการที่จะถึง ภาพรวมของการดำเนินงานจะเป็นปัจจัยที่สำคัญมากกว่าตัวเลขในอดีต
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ขยับขึ้น 139 จุดหรือ 0.5% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ดีดขึ้น 0.4% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับตัวขึ้น 0.6%
4. ค่าเงิน zloty อ่อนค่าลงหลังการเลือกตั้งโปแลนด์
ค่าเงิน zloty ของโปแลนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังจากประธานาธิบดี อันด์แชย์ ดูดา ชนะการเลือกตั้งและได้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย
ชัยชนะของนายดูดาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฝ่ายอนุรักษนิยมในยุโรปตอนกลางและตะวันออก ซึ่งหมายความว่าปมขัดแย้งระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกรายใหม่จะยังดำเนินต่อไป
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) ค่าเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 4.4764 zloty ย่อตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์
5. ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลัง OPEC+ เตรียมเลิกจำกัดกำลังการผลิตน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบย่อตัวลงหลังมีสัญญาณว่ากลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตรจะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในช่วงสิ้นเดือนนี้
ภายใต้ข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันฉุกเฉินเนื่องจากการระบาด กลุ่ม OPEC+ ได้ตกลงกันไว้ว่าจะลดกำลังการผลิตจากเดิม 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันเหลือ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้คณะกรรมการจากทางฝั่งรัสเซียได้เผยว่า รัสเซียไม่เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการดังกล่าว ซึ่งน่าจะมีการหารือกันอีกครั้งในการประชุมช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์นี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ติดลบ 1.7% เท่ากับ $39.85 ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ติดลบ 1.4% เท่ากับ $42.62 ต่อบาร์เรล