โดย Noreen Burke
Investing.com - ห้าประเด็นที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
- การแข่งกันคิดค้นวัคซีนโควิด-19 ได้เริ่มต้นขึ้น
รัฐบาลและตลาดต่างก็ฝากความหวังไว้ที่การคิดค้นวัคซีน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ต่ำมากที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวหากยังไม่มีการค้นพบวัคซีนต้านโควิด-19
การแข่งขันกันคิดค้นวัคซีนจึงเริ่มต้นขึ้น และจึงทำให้หุ้นบริษัทเภสัชกรรมบางส่วนปรับตัวขึ้นพอสมควร อาทิ Moderna (NASDAQ:MRNA) และ Inovio Pharmaceuticals (NASDAQ:INO)
AstraZeneca (NYSE:AZN) ก็กลายเป็นบริษัทสัญชาติสหราชอาณาจักรที่ทรงคุณค่ามากที่สุด หลังจากสหรัฐให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเงินทุนวิจัยวัคซีนสูงสุดถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้รัฐบาสหรัฐยังทำข้อตกลงการพัฒนาวัคซีนร่วมกับ Johnson & Johnson (NYSE:JNJ) และ Sanofi (PA:SASY) แต่ทั้งนี้บริษัทอื่น ๆ ทั้งขนาดย่อมและขนาดใหญ่ต่างก็แข่งกับเวลาเพื่อคิดค้นวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น Imperial College, Gilead Sciences (NASDAQ:GILD), Roche, CanSino Biologics ของจีนหรือ Glenmark ของอินเดีย
- ปมความขัดแย้งสหรัฐ-จีนปะทุขึ้นอีก
ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง ความหวาดหวั่นต่อความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนก็ยังคงส่งผลต่อตลาดอย่างต่อเนื่อง
สัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวโจมตีจีนในประเด็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการรับมือกับการระบาด โดยวุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายที่อาจยกเลิกการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐของบริษัทจีนบางบริษัท และแผนการออมเงินเพื่อการเกษียณของพนักงานรัฐที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนอีกด้วย
การที่จีนเตรียมร่างกฎหมายด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อควบคุมอำนาจของฮ่องกงถือเป็นประเด็นร้อนประเด็นใหม่ที่ส่งผลต่อความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย และสหรัฐเองก็ได้ออกมาเตือนว่าจะมีการตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยหากกฎหมายดังกล่าวมีความคืบหน้า
- ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐ และมุมมองของเฟด
ตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติในวันนี้ ทว่าหลังจากนั้นปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐก็ค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว โดย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ที่จะรายงานออกมาในวันพฤหัสบดีนี้ยังคงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่ายังคงมีการปลดพนักงานหรือไม่หลังจากรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐเริ่มทยอยเปิดเศรษฐกิจแล้ว
ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ จะปรากฎตัวในการอภิปรายออนไลน์วันศุกร์นี้ เพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับสภาพทางเศรษฐกิจและความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในการรักษาเสถียรภาพ โดยเฟดจะเผยแพร่ รายงานภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ในวันพุธนี้และ การปรับตัวเลขอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ในวันเดียวกัน และจะมีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และรายจ่ายส่วนบุคคลอีกด้วย
- สัปดาห์ชี้ชะตาของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน
ความไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ของยูโรโซนได้ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่ออนาคตของภูมิภาค ทว่าข้อเสนอของฝรั่งเศสและเยอรมนีล่าสุดถือเป็นชนวนสำคัญต่อการพลิกสถานการณ์ขณะนี้ ดังนั้นตลาดจึงรอดูรายละเอียดเพิ่มเติมในการเสนอแผนการฟื้นเศรษฐกิจจากการระบาดของคณะกรรมาธิการยุโรปวันพุธนี้
สิ่งที่น่าจับตาอีกประการในสัปดาห์นี้คือการรายงานข้อมูลจาก IFO ของเยอรมนีในวันนี้ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ในเยอรมนียังคงมีมุมมองในแง่ลบต่อเศรษฐกิจหรือไม่
ประธานธนาคารกลางยุโรป คริสทีน ลาการ์ด และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ฟิลิป เลน ต่างก็มีกำหนดการให้คำกล่าวในสัปดาห์นี้ และน่าจะเน้นย้ำอีกครั้งถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต่าง ๆ จะต้องออกมาตรการเชิงงบประมาณอีกเพื่อฟื้นเศรษฐกิจยุโรป
- ตลาดหลักทรัพย์ NYSE เตรียมเปิดทำการในอาคารอีกครั้ง, ปฏิทินการรายงานผลประกอบการเริ่มเบาบางลง
ชั้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งนิวยอร์ก (NYSE) ในอาคารคาดว่าจะเปิดทำการบางส่วนในวันพรุ่งนี้หลังปิดทำการเนื่องในวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ หลังจากปิดทำการมาเป็นเวลานานกว่าสองเดือนเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
ทางด้านฤดูกาลรายงานผลประกอบการของไตรมาสแรกก็เริ่มชะลอตัวลงแล้ว โดยในสัปดาห์นี้จะมีผลประกอบการของบริษัทผู้ค้าปลีกหลายรายที่น่าสนใจ ได้แก่ Costco (NASDAQ:COST), Dollar General (NYSE:DG), Nordstrom (NYSE:JWN), Ulta Beauty (NASDAQ:ULTA) และ Burlington Stores (NYSE:BURL)
--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์