โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมมีดังต่อไปนี้
1. จีนส่งสัญญาณเตรียมเข้าแทรกแซงฮ่องกง
จีนเผยแผนการเข้าควบคุมอำนาจของฮ่องกงท่ามกลางกระแสคัดค้านมากมาย และได้เผยแพร่ร่างกฎหมายด้านความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกงในวันนี้
ความคืบหน้าดังกล่าวได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความไม่สงบทางการเมืองในฮ่องกงอีกครั้งและความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างสหรัฐ-จีน โดยประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้เอาคืนหากสิทธิพิเศษของฮ่องกงได้ยุติลง รวมทั้งวุฒิสภาสหรัฐเองก็ได้เสนอร่างกฎหมายทวีภาคีที่จะแซงก์ชันรัฐบาลจีนหน่วยงานใดก็ตามที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวด้วย
ดัชนี Hang Seng ทรุดตัวลง 5.6% ขณะที่ดัชนีหลักของจีนแผ่นดินใหญ่ติดลบเกือบ 2% และเงินหยวนอ่อนค่าลง
2. จีนยกเลิกการกำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี 2020 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาน้ำมันและโลหะ
อีกหนึ่งความคืบหน้าสำคัญจากการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนในวันนี้ คือการที่พรรคคอมมิวนิสต์ตัดสินใจยกเลิกการกำหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศประจำปี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ในรอบ 30 ปี
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้จึงจะสามารถพลิกฟื้นจากการระบาด (ประชาชนราว 100 ล้านรายทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจีนยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ หลังจากตรวจพบการระบาดระลอกใหม่)
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้รับผลกระทบทางลบจากข่าวดังกล่าวอย่างชัดเจน โดย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ติดลบ 6.0% เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก เท่ากับ $31.89 ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดง ติดลบ 2.2% เท่ากับ $2.38 ต่อปอนด์ และสัญญาซื้อขายนิกเกิลล่วงหน้าปรับตัวลง 1.7%
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนลบหลังมีข่าวจากจีน
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนลบหลังจากมีข่าวความคืบหน้าครั้งใหม่จากจีน อันเป็นชนวนสำคัญที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐย่ำแย่ลง และจึงมีความเป็นไปได้สูงที่สงครามทางการค้าของปีที่แล้วจะหวนกลับคืนมาในรูปแบบใหม่
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าติดลบ 78 จุดหรือ 0.3% ขณะที่สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าย่อตัวลง 0.3% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าปรับตัวลง 0.4% ทั้งสามดัชนียังคงมุ่งหน้าปิดสัปดาห์ในแดนบวกระหว่าง 2% ถึง 3% และมุ่งหน้าปิดสัปดาห์ที่บวกขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
4. ผลกำไรของ Nvidia พุ่งขึ้นจากอุปสงค์ของธุรกิจเกมมิ่งและชิพศูนย์ข้อมูล, จับตาผลประกอบการ Alibaba
หนึ่งในหุ้นที่น่าจับตาในวันนี้คือ Nvidia ที่ผลประกอบการประจำไตรมาสออกมาดีเกินคาดหลังเวลาตลาดปิดเมื่อวานนี้
กำไรต่อหุ้นของบริษัทออกมาสูงขึ้นเกือบสองเท่าถึง $1.88 เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ได้หนุนให้ยอดขายสินค้าประเภทเกมมิ่งและชิพศูนย์ข้อมูลสูงขึ้น
ทั้งนี้การรายงานผลประกอบการของ Alibaba ก่อนเวลาตลาดเปิดในวันนี้ก็น่าจะมีแนวโน้มที่คล้ายคลึงกัน
5. บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกยังคงปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบจากการระบาดต่อเศรษฐกิจยังคงปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการประกาศปลดพนักงานในอัตราที่รวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก
สำนักข่าวญี่ปุ่น Kyodo ได้รายงานในวันนี้ว่า Nissan เผยแผนเตรียมปลดพนักงาน 20,000 ตำแหน่งเพื่อฟื้นต้นทุนของบริษัทให้สมดุลกับอุปสงค์ที่คาดการณ์ไว้ในระยะยาว
ทางด้าน IBM ก็ประกาศลดพนักงานเช่นกันภายใต้การควบคุมดูแลของซีอีโอคนใหม่ Arvind Krishna แม้ทางบริษัทจะยังไม่ได้เผยตัวเลขว่าจะปลดพนักงานกี่คนจากทั้งหมด 350,000 กว่าตำแหน่ง แต่ Wall Street Journal เผยว่าบริษัทอาจปลดพนักงาน "หลายพันคน"
Hewlett Packard Enterprise ก็ได้ประกาศโครงการลดต้นทุนของบริษัทเป็นมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อวานนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วยการปลดพนักงานหรือไม่
และเมื่อวันพุธ Rolls Royce (LON:RR) ก็ได้ประกาศแผนปลดพนักงานถึง 9,000 ตำแหน่ง