สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้แจ้งไปยังสภาคองเกรสว่าอาจมีการขายตอร์ปิโตขั้นสูงให้แก่ไต้หวันที่มีมูลค่าประมาณ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ ยิ่งส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งจีนถือว่าไต้หวันเป็นเขตปกครองหนึ่งของประเทศจีน
สหรัฐก็อยู่ในสถานะเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ ที่ไม่มีพันธะผูกพันทางการทูตกับไต้หวัน แต่ก็มีหน้าที่ทางกฎหมายที่จะต้องมอบปัจจัยต่าง ๆ ที่ช่วยให้เกาะไต้หวันปกป้องตนเองได้ แม้บ่อยครั้งที่จีนมักคัดค้านการขายอาวุธสหรัฐให้แก่ไต้หวันก็ตาม
องค์การความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหมสหรัฐได้ระบุไว้ในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้อนุมัติแผนการขายตอร์ปิโดหนักแบบเทคโนโลยีขั้นสูงรุ่น MK-48 Mod6 และยุทโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้องโดยรวมแล้วมีมูลค่าราว 180 ล้านเหรียญสหรัฐ
"องค์การความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหมได้ให้การรับรองที่จำเป็นเพื่อแจ้งสภาคองเกรสว่าอาจมีการขายเกิดขึ้นในวันนี้"
แผนการขายครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจสหรัฐ ด้วยการสนับสนุน "ความพยายามอย่างต่อเนื่องของไต้หวันในการผนึกกำลังทางการทหารและความสามารถในการป้องกันประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ"
ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน นายเจ้า ลี่เจียน ระบุจีนได้ประกาศแสดง "ความไม่พอใจทางการทูต" ต่อสหรัฐเกี่ยวกับแผนการขายดังกล่าว
นายจ้าวเสริมว่า จีนได้เรียกร้องให้สหรัฐยุติการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมด รวมทั้งยุติความสัมพันธ์ทางการทหารกับไต้หวันเพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนมีความเสียหายไปมากกว่านี้
แถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐออกมาในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีไต้หวัน นางไช่ อิงเหวิน เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง และนางไช่ได้แสดงการต่อต้านการอ้างสิทธิ์สถานะความเป็นประเทศอย่างรุนแรง ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ว่า "การรวมเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง" เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และจีนจะไม่ยอมให้ไต้หวันมีสิทธิเสรีภาพอย่างแน่นอน