โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนในวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายนมีดังต่อไปนี้
1. คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐจะลดลงเล็กน้อย
พร้อมสำหรับการประกาศตัวเลขแล้วหรือยัง
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมาชี้ว่า จะมีชาวอเมริกันอีก 5.1 ล้านรายที่จะยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 6.65 ล้านราย ส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะอยู่ที่ 13.5 ล้านรายจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 7.46 ล้านราย
โดยสหรัฐจะประกาศตัวเลขในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1230 GMT)
2. ปธน.ทรัมป์เตรียมวางแนวทางใหม่สำหรับการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง
ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกแนวทางปฏิบัติใหม่สำหรับการเปิดเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของวันนี้ และกล่าวว่า "ข้อมูลบ่งบอกว่าอัตราการเกิดยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วทั่วประเทศ"
ทรัมป์อ้างถึงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงในนิวยอร์กและนิวออร์ลีนส์ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในดีทรอยต์และเดนเวอร์เริ่มคงตัวแล้ว และยังมี "ความคืบหน้า" ในรัฐวอชิงตัน ดีซี, บัลติมอร์ และเซนต์ลูอีสอีกด้วย
Ian Shepherdson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Pantheon Macroeconomics ได้ให้ความเห็นว่า “อีกไม่นานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐก็จะลดลงถึงจุดที่สามารถลดหย่อนมาตรการล็อคดาวน์ในทั้งอิตาลี สเปน และออสเตรียได้"
ทางด้าน Wall Street Journal ก็ได้รายงานว่า ผู้นำทางธุรกิจหลายฝ่ายได้เรียกร้องผ่านการประชุมทางไกลให้ทรัมป์อย่าเร่งรีบเปิดเศรษฐกิจ และชี้ว่าประชาชนจะต้องเข้าถึงการตรวจหาการติดเชื้อให้ได้มากกว่านี้ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะกลับมาดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมทั้งการทำงานและการเข้าสังคมได้
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก, Morgan Stanley (NYSE:MS) เตรียมรายงานผลประกอบการ
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวอย่างระมัดระวังซึ่งเป็นปฏิกิริยาจากคำกล่าวของทรัมป์ หลังจากขาลงของตลาดเนื่องมาจากยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐที่ออกมาย่ำแย่
ในเวลา 6:35 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1035 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 115 จุดหรือ 0.5% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ดีดขึ้น 0.7% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 1.0% ส่วน Morgan Stanley ก็เตรียมจบฤดูกาลรายงานผลประกอบการสำหรับหุ้นกลุ่มธนาคาร
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ กำลังปรับฐานอยู่เหนือ 100 ส่วน สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า คงตัวอยู่เหนือระดับ $1,750 ต่อออนซ์
4. สหราชอาณาจักรยืดเวลาล็อคดาวน์
ปอนด์สเตอร์ลิงย่อตัวลงและหุ้นของสหราชอาณาจักรทำผลงานได้ไม่ดีนัก หลังจากสหราชอาณาจักรประกาศยืดเวลาล็อคดาวน์ออกไปอีกสามสัปดาห์
ญี่ปุ่นเองก็ขยายระยะเวลาภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยังคงสูงขึ้นเข่นกัน
ส่วนเยอรมนีก็ได้รายงานการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงสุดในรอบ 5 วัน แม้ว่าการคำนวณของยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอาจมีความคลาดเคลื่อนเนื่องจากสัปดาห์วันหยุดเนื่องในวันอีสเตอร์ ทั้งนี้เยอรมนีได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะเปิดร้านค้าขนาดเล็กและตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และจะเปิดโรงเรียนบางส่วนตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป ทว่าจะยังคงระงับการชุมนุมและกิจกรรมสาธารณะไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม
5. ราคาน้ำมันพลิกฟื้น, จับตารายงานของ OPEC
ราคาน้ำมันดิบพลิกฟื้นกลับมาอีกครั้งจากระดับ $20 ขณะที่เทรดเดอร์พยายามคาดคะเนระดับราคาต้นทุนของผู้ผลิตน้ำมันรายหลัก
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs (NYSE:GS) เชื่อว่าราคาที่อยู่ต่ำกว่าระดับ $20 ต่อบาร์เรลนั้นอยู่ระดับต่ำกว่าต้นทุนของผู้ผลิตน้ำมันหลายรายและจึงไม่น่าจะคงอยู่ระดับนี้เป็นเวลานาน ทว่าภาวะอุปทานเกินในระยะสั้นนั้นยังคงย่ำแย่ เห็นได้จากน้ำมันจาก Russian Urals ที่ได้รับการเสนอราคาอยู่ที่ $14 ต่อบาร์เรลในวันนี้
ทั้งนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือ OPEC จะมีกำหนดการรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนในเวลา 7.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
ในเวลา 6:35 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.8% เท่ากับ $20.23 ต่อบาร์เรล ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 3.0% เท่ากับ $28.52 ต่อบาร์เรล