โดย Geoffrey Smith
Investing.com --- ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันจันทร์ที่ 27 มกราคมมีดังต่อไปนี้
1. เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจขยายช่วงเวลาวันหยุดเทศกาลตรุษจีนออกไปอีกสามวันเพื่อยืดเวลาให้หน่วยงานรัฐทำการคัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส โดยทางหน่วยงานรัฐชี้ว่าผู้ติดเชื้อจะสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้นานสุดถึง 14 วันก่อนที่จะปรากฎอาการ จึงทำให้การคัดกรองเป็นไปได้อย่างยากลำบากยิ่งขึ้น
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ BBC อ้างอิงมา พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วล่าสุดพุ่งขึ้นเป็น 2,744 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อ 44 รายที่อยู่ภายนอกประเทศจีนและมี 2 รายที่พบในสหรัฐฯ และจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อได้พุ่งขึ้นเป็น 80 รายแล้ว ซึ่งตัวเลขทั้งสองต่างก็พุ่งสูงขึ้นในอัตรา 50% ต่อวัน
นักวิเคราะห์หลายท่านเชื่อว่าการหดตัวลงของ GDP จีนน่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ทว่านักวิเคราะห์ก็ได้เตือนเช่นกันว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอาจรุนแรงกว่าสมัยที่เกิดการระบาดของโรคซาร์สในปี 2002
2. ราคาน้ำมันและแร่เหล็กได้รับแรงกดดันจากพฤติกรรมการเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลก
ราคาน้ำมันดิบ ยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่องหลังจากตลาดโลกเชื่อว่าอุปสงค์น้ำมันจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการของประเทศจีนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หลังจากกรมการขนส่งของจีนได้ออกมาเผยว่าการขนส่งในช่วงสุดสัปดาห์นั้นลดลงไป 29% และจำนวนเที่ยวบินลดลงไป 42%
เมื่อเวลา 6:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1120 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ ทรุดตัวลง 3.3% สู่ระดับ $52.38 ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบสามเดือน ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ปรับตัวลง 3.3% เท่ากับ $57.90
นอกจากนี้ราคาแร่เหล็กก็ทรุดตัวลงเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงภาพรวมของตลาดที่ย่ำแย่ลงอันเนื่องมาจากการปิดตัวลงของโรงงานจีน โดยราคาแร่เหล็กในฝั่งเอเชียดิ่งลงถึง 6.5% ส่วนสัญญาซื้อขายนิคเกิลล่วงหน้าติดลบ 2.7% และ สัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้า ในลอนดอนติดลบ 1.9%
3. ตลาดหุ้นเตรียมปรับตัวลงในช่วงตลาดเปิดวันนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนลบวันนี้ โดยแนวโน้มขาลงก่อตัวภายหลังจาก S&P 500 ส่งมอบสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
เมื่อเวลา 6:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow 30 ล่วงหน้า ปิดลบ 424 จุดหรือคิดเป็น 1.5% หลังจากก่อนหน้านี้ลงไปแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในปีนี้ ส่วน สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ปรับตัวลง 1.5% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ขยับลง 1.9% โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองดัชนีได้ลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ ส่วนดัชนีส่วนใหญ่ในตลาดยุโรปเองก็ปรับตัวลงเกิน 1% ทั้งสิ้นในช่วงครึ่งแรกของวันที่ฝั่งยุโรป
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่คึกคักสำหรับการรายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่าง ๆ แต่บริษัทที่จะประเดิมการรายงานผลประกอบการในวันนี้ได้แก่ DR Horton (NYSE:DHI), Sprint, Whirlpool (NYSE:WHR) และ Arconic
ส่วนปฏิทินเศรษฐกิจในวันนี้จะมีการให้คำกล่าวของประธานเฟดประจำนิวยอร์ก นายจอห์น วิลเลียมส์ ในเวลา 9:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก และจะมีการรายงานยอดขายบ้านมือหนึ่งสหรัฐฯ ประจำเดือนธันวาคมในเวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
4. โบลตันแฉทรัมป์
นายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยว่าทรัมป์เคยสั่งให้ระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน จนกว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จะประกาศทำการสืบสวนบุตรชายของนายโจ ไบเดน
คำกล่าวข้างต้นมาจาก New York Times ซึ่งอ้างอิงจากร่างจดหมายของนายโบลตัน อันเเป็นหลักฐานอีกประการหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของปธน.ทรัมป์ที่จะยับยั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างยูเครน
ทว่าขณะนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าหลักฐานดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติในกระบวนการถอดถอนปธน.ทรัมป์โดยสภาส.ว.ที่นำโดยพรรครีพับลิกันหรือไม่ และยังไม่มีการยืนยันว่านายโบลตันจะถูกเรียกตัวมาให้ปากคำในฐานะพยานแต่อย่างใด
5. ตราสารหนี้อิตาลีทะยานขึ้นหลังการเลือกตั้ง
ตราสารหนี้อิตาลีและกลุ่มหุ้นธนาคารอิตาลีทะยานขึ้น หลังจากความพ่ายแพ้ของพรรคพันธมิตรฝ่ายขวาที่นำโดยนายแมตติโอ ซัลวินีในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีแบบอายุ 10 ปีปรับลง 18 จุด ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีตึงตัวขึ้น 15 จุดสู่ระดับ 142 ซึ่งเป็บระดับที่ต่ำสุดในระยะเวลาเกือบสามเดือน
นอกจากนี้กลุ่มหุ้นธนาคารอิตาลียังได้รับแรงหนุนและพลิกฟื้นขึ้นจากแรงกดดันทางลบของตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรปอีกด้วย