รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (13 - 17 ม.ค.)

เผยแพร่ 13/01/2563 09:59
อัพเดท 13/01/2563 10:46
© Reuters.

© Reuters.

Investing.com - ภาพรวมของห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

  1. สหรัฐฯ และจีนเตรียมลงนามข้อตกลงทางการค้า

รองประธานาธิบดีจีน นายหลิว เฮ่อ จะเดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อลงนามข้อตกลงทางการค้าขั้นแรกกับสหรัฐฯ ในวันพุธ ซึ่งจะเป็นการลดระดับสงครามทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ โดยในข้อตกลงการค้าขั้นแรกจีนได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะเพิ่มอัตราการสั่งซื้อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนของเดือนธันวาคม และการปรับลดภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนของเดือนกันยายนบางส่วน

ทว่าขณะนี้ยังไม่มีการวางกำหนดการสำหรับการเจรจาขั้นต่อไป และหากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ก็อาจทำให้ความขัดแย้งทางการค้าปะทุขึ้นอีกก็เป็นได้

ในสัปดาห์นี้เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก ขณะที่ตัวเลข การนำเข้า และ การส่งออก ของจีนที่จะรายงานออกมาในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะออกมาสูงขึ้น ส่วน ตัวเลข GDP ประจำเดือนธันวาคมที่จะรายงานออกมาในวันศุกร์คาดว่าจะออกมาเท่ากับ 6%

  1. การรายงานผลประกอบการของธนาคารต่าง ๆ

กลุ่มหุ้นธนาคารสหรัฐฯ ยังคงพุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวในแง่ลบไม่ว่าจะเป็นข่าวทางการเมืองหรือการรายงานผลประกอบการ โดยในวันพรุ่งนี้ธนาคารต่าง ๆ ในสหรัฐฯ จะเริ่มทยอยออกมารายงานผลประกอบการ

ผลการวิเคราะห์จาก Refinitiv ชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ในดัชนี S&P 500 น่าจะมีไตรมาสที่ย่ำแย่ และมีกำไรต่อหุ้นที่หดตัวลง 0.6% ซึ่งเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันแล้วที่กำไรต่อหุ้นปรับลง

แต่ในทางตรงกันข้ามธนาคารต่าง ๆ อาจมีผลงานที่ดีก็เป็นได้ ทั้ง JPMorgan (NYSE:JPM), Morgan Stanley (NYSE:MS), Goldman Sachs (NYSE:GS) และ Wells Fargo (NYSE:WFC) จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่ากลุ่มหุ้นธนาคารจะมีการเติบโตของผลกำไร 11.2%

  1. ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ, สมาชิกเฟดให้คำกล่าว

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ คาดว่าจะเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% ขณะที่ ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ จะเป็นที่น่าจับตาเป็นพิเศษหลังจากห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ค่อนข้างเงียบเหงาในช่วงวันหยุดเทศกาล

นอกจากนี้ในสัปดาห์นี้จะมีการให้คำกล่าวจากสมาชิกเฟดหลายท่านอีกด้วย

ประธานเฟดจากบอสตัน นายเอริค โรเซนเกรน และประธานเฟดจากแอตแลนตา นายราฟาเอล บอสติก จะอภิปรายเกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจในวันนี้ ส่วนประธานเฟดประจำแคนซัส นางเอสเธอร์ จอร์จ จะให้คำกล่าวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ประธานเฟดประจำฟิลาเดลเฟีย นายแพทริค ฮาร์เคอร์ และประธานเฟดประจำดัลลัส นายโรเบิร์ต แคปแลน จะออกมาแสดงทัศนะในวันพุธ

  1. ข้อมูลทางเศรษฐกิจจากสหราชอาณาจักร

ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ของสหราชอาณาจักรจะประกอบไปด้วย ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สี่, ดุลการค้า, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะได้รับการจับตาเป็นพิเศษหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ นายมาร์ค คาร์นีย์ ให้คำมั่นไว้ว่าทางธนาคารจะ "ลงมือทันที" หากความอ่อนแอทางเศรษฐกิจยังคงอยู่

ทว่านายคาร์นีย์จะไม่ได้ดูแลการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินอีกต่อไป เนื่องจากการประชุมในเดือนมกราคมจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของเขาในฐานะผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ

  1. ตัวเลข GDP เยอรมนี

เยอรมนีเตรียมรายงานตัวเลข GDP ประจำปี 2019 ในวันพุธนี้ หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับแรงกดดันจากภาวะถดถอยของภาคอุตสาหกรรม โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่า GDP รายปีจะเติบโตขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่เชื่องช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013

และในวันพฤหัสบดีนี้ ธนาคารกลางยุโรปจะเผยแพร่ รายงานการประชุม นโยบายทางการเงินประจำเดือนธันวาคม ซึ่งจะเป็นรายงานการประชุมแรกภายใต้การกำกับดูแลของประธานธนาคารกลางคนใหม่ นางคริสทีน ลาการ์ด

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย