นักลงทุนที่มองดัชนีหุ้นหลักของแคนาดามีการดีดตัวขึ้นในการซื้อขายฟิวเจอร์สในวันศุกร์ เนื่องจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นสําหรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าเมื่อใดควรดําเนินการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ฟิวเจอร์สเดือนกันยายนของดัชนี S&P/TSX เพิ่มขึ้น 0.6% ในช่วงต้นวัน สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นที่คล้ายคลึงกันในฟิวเจอร์สวอลล์สตรีท
ดัชนีคอมโพสิต S&P/TSX เผชิญกับแนวโน้มขาลงเกือบทั้งสัปดาห์ โดยลดลงในสามในสี่เซสชั่น ภาคพลังงานได้รับผลกระทบเป็นพิเศษจากราคาน้ํามันที่ลดลง ในขณะที่ผลประกอบการที่ย่ําแย่จากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น NASDAQ:TSLA และ NASDAQ:GOOGL ก็มีส่วนทําให้ตลาดขาดทุนก่อนหน้านี้เช่นกัน
ขณะนี้ผู้เข้าร่วมตลาดกําลังให้ความสําคัญกับดัชนีราคารายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกําหนดจะประกาศในเวลา 8:30 น. ET ดัชนีคาดว่าจะบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กําลังกําหนดราคาในความเป็นไปได้ 87.5% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ราคาน้ํามันยังคงค่อนข้างคงที่ แต่พร้อมสําหรับการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สาม ราคาน้ํามันที่ซบเซาเกิดจากอุปสงค์ที่ลดลงจากจีนและศักยภาพในการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งอาจบรรเทาความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อตะวันออกกลางและความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ํามัน
ในภาควัสดุ ราคาทองแดงลดลงเล็กน้อยเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคโลหะอันดับต้น ๆ ของโลก ในทางกลับกัน ทองคําฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้น โดยราคาสูงถึง 2371.8 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.8% ก่อนการเปิดเผยข้อมูล PCE
ในภาคพลังงานของแคนาดา Pieridae Energy ประกาศว่าได้ปิดโรงงานเทียบเท่าน้ํามันประมาณ 6,250 บาร์เรลต่อวัน (boe/d) ซึ่งมุ่งหน้าไปยังโรงงานที่ดําเนินการโดยบุคคลที่สาม การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อราคาก๊าซธรรมชาติที่ต่ําในปัจจุบัน
น้ํามันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายที่ 77.92 ดอลลาร์ ลดลง 0.5% ในขณะที่น้ํามันดิบเบรนท์อยู่ที่ 82.02 ดอลลาร์ ลดลง 0.4% การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ควบคู่ไปกับข้อมูลเงินเฟ้อที่รอคอยจากสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อกิจกรรมการซื้อขายบน TSX รวมถึงกลยุทธ์ของนักลงทุนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
ในขณะที่ผู้เข้าร่วมตลาดชั่งน้ําหนักผลกระทบของข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาสุขภาพทางการเงินพื้นฐานและแนวโน้มในอนาคตของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของตลาด Alphabet Inc. (NASDAQ:GOOGL) หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่กล่าวถึงว่ามีส่วนทําให้ตลาดขาดทุนก่อนหน้านี้
ข้อมูลของ InvestingPro แสดงให้เห็นว่า Alphabet Inc. ยังคงรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดที่สําคัญประมาณ 2.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราส่วน P/E ของบริษัทอยู่ที่ 24.27 ซึ่งปรับเป็น 22.59 เมื่อพิจารณาจากสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 นี่แสดงให้เห็นว่าบริษัทซื้อขายในราคาที่ต่ํากว่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้ในระยะสั้น ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงโอกาสในการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การเติบโตของรายได้ของบริษัทในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 13.38% ซึ่งเน้นย้ําถึงความสามารถในการเพิ่มยอดขายในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
ในบรรดาเคล็ดลับของ InvestingPro มีสองข้อที่โดดเด่นเป็นพิเศษสําหรับ Alphabet Inc. ประการแรกคือบริษัทถือเงินสดมากกว่าหนี้สินในงบดุล ให้ความมั่นคงทางการเงินและความยืดหยุ่น เคล็ดลับที่น่าสังเกตประการที่สองคือนักวิเคราะห์ 18 คนได้ปรับรายได้ขึ้นสําหรับช่วงเวลาที่จะมาถึง ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัท
นักลงทุนที่ต้องการเจาะลึกลงไปในตัวชี้วัดทางการเงินและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ของ Alphabet Inc. สามารถค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับ InvestingPro มีเคล็ดลับ InvestingPro อีก 11 รายการสําหรับ Alphabet Inc. ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.investing.com/pro/GOOGL เคล็ดลับเหล่านี้สามารถให้คําแนะนําที่มีค่าสําหรับผู้ที่พิจารณาลงทุนในยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี อย่าลืมใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักษ์ Pro+ โดยนําเสนอการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเพื่อแจ้งกลยุทธ์การลงทุนของคุณ
รอยเตอร์มีส่วนร่วมในบทความนี้บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน