ในช่วงปีที่ผ่านมาเราได้เห็นสกุลเงินของหลาย ๆ ประเทศมีมูลค่าร่วงลดลงอย่างน่าตกใจ ยกตัวอย่างเช่นสกุลเงินลีราของเลบานอน ที่มูลค่าลดลงถึง 56% จนทำให้สกุลเงินของพวกเขาแทบกลายเป็นสิ่งไร้ค่า และนั้นเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการทดลองใช้สกุลเงินเฟียตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้ผลตลอดช่วงหลายทศวรรษ ในทางกลับกันอุปทานเหรียญของ Bitcoin จะยังคงที่ 21 ล้านเหรียญอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลงและสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อของ Bitcoin ในอีกร้อยปีข้างหน้าก็จะยังคงลดน้อยลงเรื่อย ๆ อีกด้วย ในช่วงทศวรรษที่ 1500 เจนีวาได้กลายเป็นศูนย์กลางของการผลิตนาฬิกาให้กับสวิส ด้วยความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของเครื่อง metronomic ที่ได้กำหนดมาตรฐานไว้ในระดับสูงสุดทำให้เจนีวามีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากมันเป็นการยากที่คุณจะมาประชุมโดยไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว เช่นเดียวกับที่ Bitcoin จะกลายสกุลเงินที่ทุกคนจำเป็นต้องมีในช่วงทศวรรษที่ 20 ในปี 2021 รัฐบาลทั่วโลกได้ใช้เครื่องมือทั้งหมดที่พวกเขามีเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และแน่นอนสิ่งนี้ได้ส่งผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือกระทบจากภาวะเฟ้อที่ทุกคนหวั่นกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่เราเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าประเทศของเราล้มสลายในทุก ๆ มิติ สัญชาตญาณของคุณกำลังบอกคุณว่า เราอยู่ในตำแหน่งที่ล้มเหลวและเรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่ แน่นอนว่าคุณไม่สามารถหลักหนีจากวัฏจักรระยะยาวเหล่านี้ได้ แต่โชคดีที่บทสัมภาษณ์ของนาย Peter McCormack กับ Brandon Quittem ในหัวข้อ “Bitcoin is Fourth Turning Money ” ได้ช่วยให้เราเข้าใจถึงวัฏจักรทั้งหมดได้ดียิ่งขึ้นเพื่อเตรียมรับมือสำหรับเส้นทางข้างหน้า กระทรวงการคลังและประธาน Fed ต่างก็ทำแบบเดียวกันนี้มานานหลายทศวรรษแล้ว นั่นคือ การเพิ่มหนี้ เพิกเฉยและหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ จากนั้นก็บอกกับทุกคนว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย เราได้รับแจ้งว่าพวกเขาจำเป็นต้องพิมพ์เงินพยุงเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันการรุกรานจากต่างประเทศ และเพื่อต่อสู้กับสงครามยาเสพติด แต่การกระทำเหล่านั้นได้ทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่ล้มเหลว เรากำลังวกกลับมาที่วัฏจักรเดิมอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลของเราไม่มีกลยุทธ์อื่นที่ดีกว่า อย่างไรก็ดี Bitcoin สามารถเป็นทางออกให้กับเรื่องนี้ได้ โดยรายงานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้คนชาวอเมริกันอย่างน้อย 17% (46 ล้านคน) กำลังถือ Bitcoin อยู่ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่เริ่มสนใจใน Bitcoin มากขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เลวร้าย นี่คือข้อมูลเชิงลึกจาก Stan Druckenmiller นักวิจารณ์ชอบเรียก Bitcoin ว่าเป็นโปรเจกต์แชร์ลูกโซ่ที่เต็มไปด้วยเหล่าวาฬที่รอเทขายเหรียญในกระเป๋าของพวกเขาและผู้ที่ตกเป็นเหยื่อนั่นก็คือ เม่าที่หวังรวยทางลัด แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อระยะเวลา ทุกอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ เมื่อทุกคนเข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของ Bitcoin ในการช่วยฟื้นฟูโครงสร้างให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก
กดอ่านข่าว ทำไมเหตุการณ์เศรษฐกิจที่ล้มเหลว ถึงทำให้คุณอยากสนใจ Bitcoin ต่อที่ Siam Blockchain