Investing.com - ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนช่วงสองเดือนแรกของปี 2019 เติบโตในอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่ยอดการค้าปลีกและการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เพิ่มขึ้นกว่าการคาดการณ์
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตด้านอุตสาหกรรม มีอัตราเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2002 และคาดว่าผลผลิตทางโรงงานจะชะลอตัวลงเหลืออัตราเพียง 5.5% จากที่เดือนธันวาคมเท่ากับ 5.7%
ส่วน การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ ปรับขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2018 อัตราการเติบโตอยู่ที่ 6.1% สูงกว่าที่คาดไว้ว่า 6%
การเติบโตของ ยอดการค้าปลีก ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์อยู่ที่อัตรา 8.2% ยังคงมีความต่อเนื่องกับการเติบโตจากเมื่อเดือนธันวาคม และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 8.1% เพียงเล็กน้อย
สำนักงานสถิติแห่งชาติรวบรวมข้อมูลกิจกรรมจากทั้งเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เข้าด้วยกัน เนื่องจากในแต่ละปีจะมีเทศกาลตรุษจีนที่ยาวนาน บรรดาโรงงานและธุรกิจทั่วประเทศต่างก็ปิดทำการเพื่อหยุดเทศกาล
“ข้อมูลล่าสุดอาจช่วยบรรเทาความกังวลว่าจะเกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในต้นปีนี้ไปได้ แต่ภาพรวมในอนาคตอันใกล้ยังคงเป็นไปในทิศทางลบ ... ขณะเดียวกัน ความผิดหวังต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แสดงให้เห็นว่าการทรุดตัวลงของเศรษฐกิจจากปีที่แล้วยังคงฟื้นตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก" นายจูเลียน อีวานส์-พริตชาร์ด นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากจีน ของ Capital Economics กล่าวในรายงานของ Financial Times
เช้าวันนี้ตลาดหุ้นจีนซื้อขายในราคาที่ต่ำลงภายหลังจากการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจ ดัชนี Shanghai Composite และ SZSE Component ปรับลง 1.1% และ 1.8% ตามลำดับ เมื่อเวลา 23:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (03:00 GMT) ส่วนดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงก็ขยับลง 0.4% เช่นกัน