แม้ว่าปัญหาด้านความปลอดภัยจะยังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในอุตสาหกรรม cryptocurrency แต่ปัญหาด้านอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ที่พบในสหภาพยุโรปเมื่อเร็ว ๆ นี้จะกลายเป็นภัยคุกคามคริปโตหรือไม่ก็ยังไม่มีใครทราบชัดเจน อันที่จริงเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2022 หลายพื้นที่ในยุโรป อเมริกา และเอเชียประสบปัญหาด้านอินเทอร์เน็ตอย่างมากเนื่องจากสายเคเบิลใต้ทะเลหลายสายถูกตัดทำให้เกิดปัญหาด้านการเชื่อมต่อทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝรั่งเศส อิตาลี และสเปนก็เผชิญหน้ากับภาวะไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ Jay Chaudhary CEO ของ Zscaler ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ของอเมริกาได้กลายเป็นตัวแทนที่ถูกคนทั่วโลกตำหนิจากเหตุการณ์สายเคเบิลใต้ทะเลถูกตัดซึ่งทำให้เกิด packet data losses หรือ latency ที่สูงบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามอย่างดีที่สุดแต่ก็ยังไม่สามารถหาผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ทั้งนี้เมื่อ 2-3 วันก่อนได้มีการลักลอบตัดสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตรอบ ๆ สหราชอาณาจักร โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมสายเคเบิลใต้น้ำถูกเฉือนใกล้กับชายฝั่งทางเหนือของสกอตแลนด์ แม้ว่าจะมีการเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ตามแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันเรื่องดังกล่าว จากที่กล่าวไปทั้งหมดนั้นทำให้นักพัฒนาด้านความปลอดภัยเป็นกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้อาจส่งผลกระทบต่อ cryptocurrency มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวกับด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นของเครือข่าย ปัญหาอินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อทำความเข้าใจว่าปัญหาทางอินเทอร์เน็ตสามารถส่งผลกระทบต่อ cryptocurrencies ได้อย่างไร จึงได้มีการสัมภาษณ์ Nikolay Angelov หัวหน้าฝ่ายบล็อกเชนสถาบันสินเชื่อสกุลเงินดิจิทัลชื่อดังที่มีชื่อว่า Nexo โดยเขาได้กล่าวว่า “ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของสายเคเบิลเมื่อเร็ว ๆ นี้ คิดเป็น Bitcoin Node มากกว่า 3% ทั่วโลกและ Ethereum
กดอ่านข่าว หากอินเทอร์เน็ตทั่วโลกดับลง Crypto จะปลอดภัยหรือไม่ สิ่งนี้มีคำตอบ ต่อที่ Siam Blockchain