การอัพเกรด The Merge ของ Ethereum ถือเป็นการนำบล็อคเชนไปสู่กลไกฉันทามติ Proof-of-Stake (POS) ที่กำจัดผู้ขุดและแทนที่ด้วยนัก Validate แทน แม้ว่าการเปลี่ยนไปใช้ PoS นั้นมีประโยชน์หลายประการ แต่มันก็ตามมาด้วยข้อเสียเช่นกัน นับตั้งแต่เปิดตัว Ethereum ในปี 2558 มันได้รับการขนานนามว่าเป็นแพลตฟอร์มการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง กลายเป็นเครือข่ายที่ใหญ่เป็นอันดับสองและใหญ่ที่สุดในแง่ของแอพพลิเคชั่นกระจายอำนาจ (DApps) ในขณะที่มันเป็นศูนย์กลางของการสร้างเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (DLT) ปัจจัยบางอย่างอาจทำให้มันเกิดภาวะการรวมศูนย์ (centralized) มากกว่าเดิม หลังจาก The Merge เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ขุดถูกผลักไสออกจากเครือข่ายและแทนที่ด้วยนัก Validate ที่จะต้องมีการ stake เหรียญอย่างน้อย 32 ETH เพื่อสร้างบล็อกใหม่ แม้ว่าจะใช้เวลานานเนื่องจากลดการใช้ไฟฟ้าของเครือข่ายและเพิ่มความเร็วเล็กน้อย แต่ก็เป็นปัญหาเนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่สามารถจ่ายเงิน 32 ETH เพื่อเข้าร่วมกระบวนการตรวจสอบได้ ก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายในการขุด ETH ที่สูงทำให้ผู้ใช้หันไปหากลุ่มการขุดบนการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ เช่น Binance, Coinbase (NASDAQ:COIN), Lido Finance และ Kraken แต่ปัจจุบันนับตั้งแต่ The Merge นั้นมีเหรียญ ETH ประมาณ
กดอ่านข่าว ผู้เชี่ยวชาญเตือน Ethereum เริ่มมีความเป็น Centralized สูงมาก หลังอัพเกรด The Merge ต่อที่ Siam Blockchain