ผ่านไปแล้ว 24 ชั่วโมงกับ ‘The Merge’ อัปเกรดครั้งสำคัญของ Ethereum ที่เป็นการยกระดับเครือข่ายให้ตอบสนองผู้ใช้งานมากขึ้น ตัดข้อเสียต่างๆ ที่ต้องเผชิญมาก่อนหน้าทิ้งไป พร้อมปูทางสู่การอัปเกรดครั้งถัดๆ ไปในอนาคต
โดยหลักๆ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงกลไกการยืนยันธุรกรรมหรือ Consensus Mechanism จากแบบ Proof-of-Work แบบเก่า สู่ Proof-of-Stake แบบใหม่ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการยืนยันธุรกรรมในบล็อกเชนไปอย่างสิ้นเชิง
จากก่อนหน้าที่ใช้ ‘นักขุด’ ที่ใช้พลังการประมวลผลจากฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ต่างๆ เช่นการ์ดจอ หรือเครื่อง ASIC ในการยืนยันธุรกรรม มาสู่การ ‘Stake’ หรือการฝากเหรียญเข้าไปในระบบ เพื่อเป็นการยืนยันธุรกรรมแทน
‘นักขุด’ ขุดไม่ได้อีกต่อไป
แน่นอนที่ระบุไปข้างต้นว่าหลังจาก The Merge เกิดขึ้นแล้ว จะไม่สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ขุดเหรียญได้อีกต่อไป ดังนั้นคนที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ก็คือ ‘นักขุด Ethereum’ ที่ลงทุนซื้อเครื่องขุดราคาแสนแพงมาแล้ว ทางเลือกที่กลุ่มนักขุดเหล่านี้สามารถทำได้ก็มีแค่เลิกขุดไปเลย กับไปหาเหรียญอื่นๆ ขุดต่อ
‘Vitalik Buterin’ ผู้สร้าง Ethereum และผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญของ The Merge ก็เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าใครยังอยากใช้ Proof-of-Work ก็ให้ไปใช้ ...