นับตั้งแต่ ตลาดสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโทเคอรร์เรนซี่ กลับมาได้รับความนิยมทั่วโลก ในช่วงเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 (ปี 2563) เนื่องจากความร้อนแรงของราคาที่เพิ่มสูงหลายเท่าตัว จึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่หมายปองของนักลงทุน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักในหลายประเทศ รวมถึงไทย ที่เริ่มอนุญาตให้เปิดศูนย์ซื้อขายคริปโทฯในประเทศได้ภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลไทย มีการกระทำผิดระเมิดกฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต. ต่าง ๆ มากมาย เช่น ปัญหาภายในระบบของ Bitkub ที่เกิดขัดข้องอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก เมื่อช่วง ม.ค.64 จน ก.ล.ต. ต้องสั่งเร่งแก้ไข และห้ามรับลูกค้าใหม่เพิ่ม การสร้างปริมาณเทียมจับคู่ซื้อขายคริปโทฯกันเองภายในศูนย์ซื้อขาย “บิทคับ-สตางค์โปร” ซึ่ง ก.ล.ต.สั่งลงโทษปรับเงินผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง พร้อมห้ามเป็นกรรมการบริหารนาน 12 เดือน กรณีบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด ( Zipmex) ระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลกระทันหัน เนื่องจากปัญหา ZipUp+ ผลิตภัณฑ์ที่นำสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าราว 2,000 ล้าบบาท ที่ไปลงทุนต่อกับบริษัทปล่อยกู้ในต่างประเทศ ได้รับผลกระทบจากโปรเจกต์ Terra-Luna ที่ล่มสลายไป จึงทำให้บริษัทปล่อยกู้ดังกล่าวขาดสภาพคล่องในที่สุด และทำให้ Zipmex ไม่สามารถเพิกถอนสินทรัพย์ที่ลงทุนไปออกมาได้ ซึ่งต่อมา ก.ล.ต.เริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุดังกล่าว และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อเอาผิดกับทาง
กดอ่านข่าว ก.ล.ต.เผยบทลงโทษ ศูนย์ซื้อขายคริปโตไม่ทำตามกฎ เจอทั้งอาญา-แพ่ง ต่อที่ Siam Blockchain