จากรายการ Squawk Box ทางช่อง CNBC เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ‘David Rubenstein’ ผู้ก่อตั้งและผู้ร่วมบริหารของ ‘Carlyle Group’ บริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ เปิดเผยว่าตนได้ตัดสินใจลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีเมื่อช่วงเดือนก่อน หลังจากปฎิเสธมาอย่างยาวนาน
โดยให้เหตุผลว่าสาเหตุหลักมาจากการที่ ‘สหรัฐฯ‘ เริ่มที่จะมีกฎหมายเข้ามาควบคุมอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวของ David Rubenstein แล้ว เขามองว่าจะเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมมากกว่าจะเป็นผลเสีย รวมไปถึงยังจะเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศให้ก้าวหน้าต่อไปอีกด้วย
“ประเด็นเรื่องคริปโตมันหนักหน่วงมากในสภาคองเกรส ฝั่งคริปโตพยายามจะให้ตัวเองเป็นเสรีมากที่สุด” เขาระบุ “อุตสาหกรรมคริปโตไม่ยอมอ่อนข้อให้คองเกรสเลย”
ลงทุนคริปโต ที่ไม่ใช่การ ‘ซื้อคริปโต’
ก่อนหน้านี้ David Rubenstein เปิดเผยว่าตนมีความคิดเห็นต่อต้านคริปโต และกล่าวว่าเพิ่งจะมาเปลี่ยนความคิดเมื่อช่วง 1 เดือนก่อน และก็ได้เริ่มต้นเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมตั้งแต่นั้นมา อย่างไรก็ตามการลงทุนของเขากลับไม่ใช่การซื้อเหรียญคริปโตอย่างที่ใครหลายคนทำ
แต่การลงทุนของเขากลับเป็นการเข้าลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หรือที่ให้บริการเกี่ยวกับคริปโตแทน
“ผมไม่ได้ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี แต่ผมเข้าซื้อบริษัทที่ให้บริการในอุตสาหกรรมแทน เพราะผมคิดว่าผมคงมาช้าเกินไปแล้ว”
“ผมคิดว่าการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคริปโต มันคงจะยังอยู่กับเราไปอีกสักระยะหนึ่งแหละ”
‘Carlyle Group’ ถูกก่อตั้งในปี 1987 ในขณะนี้มีทรัพย์สินอยู่ในการดูแลเป็นมูลค่าถึง 1.67 แสนล้านดอลลาร์ และอีกมากกว่า 270 บริษัทใน Portfolio พร้อมกับตัวของ David Rubenstein เอง ในขณะนี้ก็มีทรัพย์สินรวมอยู่ถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากการคาดการของ Forbes ในขณะนี้
ที่มา: Cointelegraph