หลังจากที่ก่อนหน้าที่ทาง CryptoSiam ได้มีการรายงานถึงการประกาศผลการตัดสินใจของรัฐบาลของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่าจะทำการเก็บภาษี และภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย Cryptocurrency ล่าสุด รัฐบาลแห่งดินแดนอินทรีแดงก็ได้เริ่มเดินหน้าตามนโยบายที่พวกเขาวางเอาไว้แล้ว
ภาษีคริปโตของอินโดนีเซีย
ตามรายงานของสำนักข่าว Times of India ทาง Hestu Yoga Saksama ผู้อำนวยการด้านกฎระเบียบด้านภาษีของกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ออกมายืนยันว่ารัฐบาลได้เดินหน้าที่จะเรียกเก็บภาษี 0.1% สำหรับรายได้ที่เกิดจากการค้าสกุลเงินดิจิทัลเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยจะเรียกเก็บภาษี (TAX) จากกำไรจากการลงทุนคริปโต และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการซื้อสกุลเงินดิจิทัลในอัตราเดียวกันนั่นก็คือ 0.1%
นอกจากนี้ Hestu Yoga Saksama ยังกล่าวเสริมอีกว่า สาเหตุที่ทางธนาคารกลางของประเทศอย่าง Bank Indonesia และกระทรวงพาณิชย์ได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่มกับคริปโต ก็เพราะว่าพวกเขามองว่า Cryptocurrencies เป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ใช่วิธีการชำระเงิน นั่นเอง
ทั้งนี้ในปัจจุบัน รัฐบาลอินโดนีเซียอนุญาตให้ทำการซื้อขายสินทรัพย์ Crypto เป็นสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น โดยห้ามมิให้ใช้เป็นวิธีการชำระเงินโดยเด็ดขาด
เกณฑ์การจัดเก็บภาษีคริปโตของอินโดนีเซีย
โดยปกติแล้วอินโดนีเซียจะมีการเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของเหล่าสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ที่ 11% ทั้งนี้สาเหตุที่อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับ Cryptocurrencies นั้นต่ำกว่า 11% ที่อินโดนีเซียเรียกเก็บจากสินค้า และบริการส่วนใหญ่ ก็เพราะพวกเขานำบรรทัดฐานเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียมาใช้ในการกำหนดกฎเกณฑ์ดังกล่าวนี้ซึ่งก็คือเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นค่าเดียวกับภาษี ซึ่งในที่นี้ก็คือ 0.1% ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมดนั่นเอง
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่นิยมมากท่ามกลางชาวอินโดนีเซีย
แม้เดิมองค์กรด้านศาสนาในอินโดนีเซียจำนวนมากจะออกมาระบุว่า ...