ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐกำลังหารือเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งมหาเศรษฐี Paul Tudor Jones กล่าวว่า อาจเป็นความคิดที่ไม่ดีนักที่นักลงทุนจะเป็นเจ้าของหุ้นและพันธบัตร แต่เขายังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin และ Crypto ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Squawk Box ของ CNBC เขาเปิดเผยว่า เขายังคงถือ Bitcoin อยู่และเชื่อว่ามีแนวโน้มที่ดี Paul Tudor Jones กล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อที่กระทบต่อสหรัฐฯ ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 โดยย้อนกลับไปในครั้งแรกที่ 5.5% แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 14.4% และลดลงเล็กน้อยในปี 1980 เพียงปีเดียวเท่านั้น ย้อนกลับไปในตอนนั้นเขากล่าวว่า ไม่มีสินทรัพย์ใดที่สามารถให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก แม้กระทั่งทองคำ Jones กล่าวว่า หุ้นและพันธบัตรเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาถือครองอยู่ในปัจจุบัน และเขาแนะนำนักลงทุนมุ่งมั่นรักษาทุนของตัวเองในช่วง โดยพยายามที่จะสูญเสียน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งปีนี้ได้ไปถึง 7% แล้ว เราอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่งและการรักษาเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นช่วงที่คุณสามารถทำเงินได้อยู่หรือเปล่า เมื่อถูกถามว่าเขายังคงเชื่อมั่นในช่วงขาขึ้นของตลาดคริปโตอยู่หรือไม่ Jones ยอมรับว่าเขายังคง “ลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นกับคริปโต” และเชื่อว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงอนาคตที่สดใสสำหรับการลงทุนในคริปโตของเขา นอกจากนี้เขายังเสริมว่า “มันยากที่จะไม่มองว่า crypto กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น” ซึ่งสันนิษฐานว่าเขาอาจหมายถึง Bitcoin เนื่องจากเงินทุนทางปัญญา (intellectual capital) กำลังหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ ที่มา : u.today
กดอ่านข่าว นักลงทุนในตำนาน Paul Tudor Jones กล่าวว่า “เงินทุนทางทางปัญญากำลังหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด Crypto “ ต่อที่ Siam Blockchain