จากการสำรวจของ CNBC เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่จัดทำโดย Spectrum Group เศรษฐีส่วนใหญ่ที่อยู่ในช่วง millennial หรือช่วง Gen Y ที่มีความมั่งคั่งมหาศาลในคริปโตอยู่แล้วนั้นกำลังคิดที่จะลงทุนมากขึ้นแม้ว่าตลาด crypto จะดิ่งลงเหวในช่วงนี้ นอกจากนี้สิ่งที่สังเกตได้อีกก็คือเหล่ามหาเศรษฐีมีความมั่นใจในเศรษฐกิจแม้จะมีเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและอัตราภาษี ประมาณ 41% จากที่ทำการสำรวจนั้นบอกว่าเศรษฐกิจจะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2022 ในขณะที่ 35% บอกว่าเศรษฐกิจจะถดถอยจากการสำรวจนั้นชี้ให้เห็นว่า 83% ของเศรษฐี Gen Y เป็นเจ้าของคริปโตกันซึ่งกว่า 53% ของเศรษฐีเหล่านี้มีความมั่งคั่งมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในคริปโตและประมาณหนึ่งในสามของเศรษฐีกักเก็บความมั่งคั่งของพวกเขา 75% ในคริปโตเช่น Bitcoin และ Ethereum ที่น่าสนใจนั้นคือในทางกลับกันการถือครองคริปโตนั้นได้รับความนิยมน้อยมากในหมู่คนรุ่นเก่าจากการสำรวจพบว่ามีเพียง 4% ของ baby boomer ที่มีการถือครอง cryptocurrency และกว่า 75% ของคนในรุ่น Gen X ไม่มีการถือครอง crypto ซึ่งตัวเลขนั้นก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติต่อการถือครองคริปโตของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่แบ่งแยกกันออกมาให้เราเห็นกันได้อย่างชัดเจน อีกหนึ่งการสำรวจจากทาง Bankrate ชี้ให้เห็นว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนรุ่น Gen Y รู้สึกสบายใจที่จะลงทุนคริปโตเมื่อเทียบกับ Gen X ที่ 37% และ baby boomer ที่ 22% ร์ ในจำนวนนี้ 12% ของคนรุ่นGen Y คิดว่า Bitcoin และคริปโตเหรียญอื่น ๆ เป็นแหล่งลงเงินทุนที่ดีที่สุดสำหรับการจะลงทุนในระยะยาว โดยเศรษฐีในกลุ่ม Gen Y นั้นมีสองประเภทหลัก ๆ คือผู้ที่ทำเงินได้เนื่องจากการเติบโตของคริปโตและผู้ที่ทำเงินได้จากความมั่งคั่งที่มีอยู่ (ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นหรือจากบริษัทสตาร์ทอัพ) เพื่อลงทุนในคริปโตประมาณ ซึ่งกว่า45% ของคน Gen Y มีความมั่งคั่งที่สืบทอดมาจากรุ่นต่อรุ่นเป็นหนึ่งในปัจจัยของความมั่งคั่งทั้งหมดของพวกเขาและสำหรับเศรษฐีสินที่มีสินทรัพย์มูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญ (คิดเป็นตัวเลขกว่า 75%) แม้จะมีในเรื่องของความผันผวนของราคาของ crypto ในช่วงนี้แต่คนรุ่น Gen Y ก็ไม่ได้มีแผนที่จะลดการถือครอง crypto ของพวกเขาแต่อย่างใดการสำรวจของ
กดอ่านข่าว ทำไมคนในรุ่น Gen Y ถึงเลือกที่จะลงทุนในเหรียญ Cryptocurrency ต่อที่ Siam Blockchain