อุปทานเหรียญ LUNA ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Terra blockchain ได้ร่วงลดลงสู่จุดต่ำสุดเป็นประวัติกาณณ์ในวันอังคาร ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักวิเคราะห์คริปโตส่วนใหญ่มองว่า โปรเจกต์ยังคงได้รับความนิยมมากเพียงใด แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืนก็ตาม อุปทานหมุนเวียน (circulating supply) ของ LUNA หรือจำนวนโทเค็นที่มีการหมุนเวียนอยู่ในตลาด ได้ลดลงเหลือ 346 ล้านเหรียญ โดยลดลงจาก 355 ล้านในเดือนก่อนหน้าและเคยสูงถึง 482 ล้านในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Smart Stake แพลตฟอร์มติดตามข้อมูลบน Terra Blockchain พบว่า จำนวนเหรียญ Luna ในตลาดที่ไม่ได้มีถูกล็อคสำหรับการ Stake ได้ลดลงเหลือ 90 ล้านเหรียญเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการก่อตั้งโปรเจกต์ อุปทานเหรียญที่ลดลง ได้ช่วยหนุนราคาของ Luna ในตลาดคริปโต จนทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 119 ดอลลาร์ในวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา Dustin Teander นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มข้อมูลบล็อคเชน Messari กล่าวว่า “สิ่งนี้ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ LUNA มีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเท่านั้น แต่ยังมีการปรับลดอุปทานลงอย่างมากอีกด้วย” บล็อกเชนของ Terra ถูกก่อตั้งและพัฒนาโดย Terraform Labs บริษัทที่ตั้งอยู่ในเกาหลีใต้ ซึ่งได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากรากฐานของโปรโตคอลการชำระเงินคริปโตสำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ไปจนถึงการลงทุนใหม่ในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ ( DeFi ) เกม และโทเค็น NFTs ในกระบวนการนี้ LUNA โทเค็นดั้งเดิมของ Terra และอัลกอริธึม ของเหรียญ Stablecoin UST จึงได้ก้าวกระโดดขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ของเหรียญ cryptocurrency ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในปี 2022 ชะตากรรมของราคาเหรียญ LUNA นั้นเชื่อมโยอยู่กับเหรียญ StableCoin UST อย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากโทเค็น LUNA มีความจำเป็นต่อการรักษาราคาของ UST ของ Terra ไว้ที่ $1 ตามกลไกการกำหนดราคาที่สร้างขึ้นโดยใช้อัลกอริทึม ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจให้นักเทรดทำการซื้อและขายเหรียญอยู่ในมูลค่าที่ $1 ซึ่งจะทำการเผาทำลายหรือสร้างโทเค็น LUNA เพื่อสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานให้กับโทเค็นของ UST โดยเมื่อ UST มีมูลค่าที่สูงกว่า $1
กดอ่านข่าว อุปทานเหรียญ LUNA ร่วงแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเหรียญกำลังจะเข้าสู่ “ภาวะเงินฝืด” ต่อที่ Siam Blockchain