หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Elon Musk CEO ของ Tesla (NASDAQ:TSLA) และ SpaceX ได้ออกมาสร้างความฮือฮา โดยเผยความต้องการที่จะเสนอซื้อทั้งบริษัท Twitter ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 43,000 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนที่การเคลื่อนไหวนี้จะเกิดขึ้น Elon Musk ทำการเข้าซื้อหุ้น Twitter เพิ่มเป็นสัดส่วน 9.2% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทวิตเตอร์ (ณ ช่วงเวลานั้น) และได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดบริหาร แต่ Elon Musk ให้การปฏิเสธไป เนื่องจาก Musk ดูเหมือนจะรู้แผนของ Twitter ที่พยายามแต่งตั้งให้เขาเข้าร่วมเป็นบอร์ดก็เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเทคโอเวอร์บริษัทนั่นเอง (แต่ Musk ก็ต้องการจะเทคโอเวอร์อยู่ดี) อย่างไรก็ตาม เมื่อทางบอร์ดบริหารของ Twitter รู้ว่าแผน A ของพวกเขานั้นไม่สำเร็จ พวกเขาก็ได้เลือกใช้แผน B ต่อทันที โดยได้ใช้กลยุทธ์ “Poison Pill” ซึ่งเป็นกลวิธีในการป้องกันแบบหนึ่งที่ใช้โดยคณะกรรมการของบริษัทในการต่อต้านการเทคโอเวอร์บริษัท สำหรับกลยุทธ์ “Poison pill” นั้นจะเป็นการมอบสิทธิให้กับเหล่าผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์รายเล็ก สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ในราคาพิเศษ แต่ก็กลยุทธ์นี้ก็มีข้อเสียอาจทำให้ราคาต่อหุ้นของบริษัทลดลงไปด้วย ซึ่งในกรณีของ Twitter นั้น บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ Poison pill ด้วยการขายหุ้นเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นในราคาส่วนลด เพื่อตัดกำลังผู้ที่ถือหุ้นเกิน 15% แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแน่นอนว่า Musk ก็ไม่ยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว โดยล่าสุดเขาได้ออกมาโต้กลับ Twitter พร้อมขู่ว่า : “เขาจะตัดเงินเดือนบอร์ดบริหารให้เหลือ 0 หากเขาเทคโอเวอร์บริษัทได้สำเร็จ ซึ่งช่วยบริษัทประหยัดเงินได้ถึง 3 ล้านดอลลาร์ต่อปี“ นอกจากนี้ Musk ออกมาชี้ว่าการที่บอร์ด Twitter เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ “Poison Pill” แทนการรับซื้อหุ้นของเขาที่ราคาสูงกว่าตลาดถึง 40% หรือสูงกว่าราคาเฉลี่ยหุ้นในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมานั้น อาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์สูงสุดของ “ผู้ถือหุ้น” (แต่อาจเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง) ในขณะเดียวกัน Jack Dorsey อดีต CEO
กดอ่านข่าว Elon Musk โต้กลับ Twitter พร้อมขู่ว่า “จะตัดเงินเดือนบอร์ดบริหารให้เหลือ 0 หากเขาเทคโอเวอร์สำเร็จ” ต่อที่ Siam Blockchain