ตามคำสั่งของ Vladimir Putin ประธานาธิบดีของรัสเซียที่ต้องการให้บุกโจมตียูเครนตะวันออกใน “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ของช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่ในตลาดหุ้นและตลาด crypto ส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลขาดทุนกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในทางกลับกันราคาทองคำกลับพุ่งขึ้นเหนือระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน ราคาทองคำได้เพิ่มขึ้นกว่า 1.9% สูระดับ1,971.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อ 05:29 น ตามเวลานิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2021 โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าราคาอาจพุ่งไปสูงถึง 1,980 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์อย่างรวดเร็วท่ามกลางความตึงเครียดและความรุนแรงที่ทวีคูณในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เมื่อพูดถึงภาวะเงินเฟ้อและภัยคุกคาม ทองคำถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น ทองคำก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ราคาทองคำอาจผันผวนต่อไปเนื่องจากนักลงทุนในตลาดมีปฏิกิริยาต่อการเพิ่มขึ้นของราคาที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ทั้้งนี้ราคาทองคำยังคงกว่าเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 1,949.20 ดอลลาร์ซึ่งทำให้ราคาทองคำโดยรวมเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์มาอยู่ที่ประมาณ 8% อย่างไรก็ตามพันธบัตรและราคาหุ้นในสหรัฐฯ ดิ่งลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ ซึ่งมาพร้อมกับค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้น Anuj Gupta รองประธานบริษัทหลักทรัพย์ IIFL กล่าวว่า : “ราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และอาจแข็งค่าขึ้นอีกเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์แตะระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกซึ่งได้มาถึงระดับที่น่าตกใจแล้ว” Bitcoin ลดลง 8% ใน 24 ชั่วโมง ปัจจุบัน Bitcoin หรือที่เรียกว่า “ทองคำดิจิทัล” มีการซื้อขายที่ 35,721 ดอลลาร์ ลดลง 7.95% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และ 17.44% ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีมูลค่าตลาด 6.775 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ CoinMarketCap Michaël van de Poppe ผู้เชี่ยวชาญตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีชื่อเสียงคิดว่าในที่สุด Bitcoin กลับไปสู่ที่ระดับราคา 30,000 ดอลลาร์ก่อนเริ่มต้นแนวโน้มการกลับตัวในที่สุด “การวิเคราะห์ทางเทคนิค ผมคิดว่าสถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือกลับไปสู่ราคา 30,000 ดอลลาร์จากนั้นจึงจะเกิดการพลิกกลับของแนวโน้ม” Poppe
กดอ่านข่าว ตลาด Bitcoin ยังคงเป็นสีแดงท่ามกลางสงครามยูเครน-รัสเซีย ต่อที่ Siam Blockchain